ถ้าเราพยายามอดทนฝึกให้จิตเรามีสมาธิ ทำกรรมฐานไป รู้จักเลือกอารมณ์ที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข อารมณ์นั้นไม่ยั่วให้เกิดกิเลส ทีแรกมันก็ฟุ้งซ่าน แล้วทำทุกวันๆ ต่อไปมันก็สงบลงมา เวลามันสงบมันก็ข่มนิวรณ์ได้ เวลาจิตไม่มีกำลังไม่สงบ ก็ถูกนิวรณ์เข้ามาข่มจิต ก็ยิ่งฟุ้งซ่านมากกว่าเก่าอีก เพราะฉะนั้นต้องอดทน ในช่วงแรกๆ ของการปฏิบัติ ตั้งใจรักษาศีลไว้แล้วก็อดทน เราจะต้องต่อสู้กับนิวรณ์ 5 ตัว นิวรณ์โดยตัวศัพท์ของมัน ก็หมายถึงสิ่งซึ่งคอยมาขัดขวาง การทำคุณงามความดีทั้งหลาย นั่นละเรียกว่านิวรณ์ เวลามีสิ่งมาขัดขวางคุณงามความดีในใจเรา ก็เรียกว่ามีนิวรณ์เกิดขึ้นแล้ว ทีแรกเราก็ยังมีนิวรณ์ทุกคน ก็ต้องอดทนภาวนาทำไปเรื่อยๆ มันคงไม่ชั่วตลอดชาติหรอก หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 30 ธันวาคม 2566

Direct download: 661230.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

Direct download: 660729_VT2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 660729_VT1_.mp3
Category:short clips -- posted at: 8:00am +07

Direct download: 660722_VT2__.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 660722_VT1_.mp3
Category:short clips -- posted at: 8:00am +07

Direct download: 660716_VT3_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 660716_VT2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 8:00am +07

Direct download: 660716_VT1___.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 660715_VT2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 8:00am +07

Direct download: 660715_VT1_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 660709_vt2.mp3
Category:short clips -- posted at: 8:00am +07

ตัววิปัสสนากรรมฐาน ไม่ใช่มีสติรู้กายรู้ใจอยู่เฉยๆ ต้องมีปัญญา มีสัญญาหมายรู้ความเป็นไตรลักษณ์ของกายของใจ แล้วปัญญาคือความรู้ถูกความเข้าใจถูกจะเกิดขึ้น ว่าร่างกายจิตใจของเราไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เกิดวิปัสสนาปัญญาขึ้น ฉะนั้นเวลาเรามาวัด เราก็ดู เราเป็นบุคคลประเภทที่หนึ่ง มาแล้วมีความสุขเพลิดเพลิน หรือเป็นบุคคลประเภทที่สอง มาแล้วก็คอยรู้สึกอยู่ที่ร่างกาย คอยรู้สึกอยู่ที่จิตใจให้มันนิ่งๆ อยู่ หรือเป็นประเภทที่สาม มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงในร่างกาย มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงในจิตใจก็รู้ แล้วเราก็จะเห็นไตรลักษณ์ เห็นความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของร่างกายของจิตใจ มันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา อันนี้ได้ปัญญา ปัญญาชั้นสูงเลยเรียกว่าวิปัสสนาปัญญา เพราะฉะนั้นอย่างต่ำ อย่าใจลอย รู้สึกกายรู้สึกใจ ร่างกายนั่งอยู่รู้สึก คอยรู้เนื้อรู้ตัวอยู่ เราก็จะเป็นคนแบบที่สอง อย่างน้อยจิตใจเราก็สงบสุขได้ ถ้าสูงกว่านั้นก็คือเห็นความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ของร่างกายของจิตใจไป เราจะได้ปัญญา เราจะพ้นทุกข์ได้ก็เพราะปัญญา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 27 ธันวาคม 2566

Direct download: 661227.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

Direct download: 660709_VT1.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

กรรมฐานที่ไม่มีโทษไม่มีภัยแล้วก็ไม่ยากเกินไป เรื่องของสมถกรรมฐาน คือเรื่องของอนุสติ อนุสติ 10 ข้อ จะทำพุทธานุสติ ก็ต้องคิดถึงคุณของพระพุทธเจ้า ธัมมานุสติ ก็คิดถึงคุณของพระธรรม สังฆานุสติก็คิดถึงคุณของพระสงฆ์ เทวตานุสติ ก็คิดถึงธรรมะที่ทำให้คนเป็นเทวดา จาคานุสติ อย่างเราได้บริจาคทาน ถ้าทำทานก็ทำด้วยใจที่บริสุทธิ์ ทำด้วยเสียสละ ทำเพราะเห็นว่าสมควรจะทำ สีลานุสติ นึกถึงศีลที่เราตั้งใจรักษามาดีแล้ว มรณานุสติ คิดถึงความตายบ้าง คิดถึงความตายบ่อยๆ วันละหลายๆ รอบยิ่งดี กายคตาสติ พิจารณาลงในร่างกาย ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ไล่ลงไปทีละส่วนๆ อีกตัวหนึ่งคืออานาปานสติ มีสติหายใจออก มีสติหายใจเข้าเรื่อยๆ ไป หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 24 ธันวาคม 2566

Direct download: 661224.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

Direct download: 660708_VT2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 660708_VT1__.mp3
Category:short clips -- posted at: 8:00am +07

Direct download: 660708_VQ2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 660708_VQ1_.mp3
Category:short clips -- posted at: 8:00am +07

Direct download: 660702_VQ_.mp3
Category:short clips -- posted at: 8:00am +07

Direct download: 660702_VT2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 660702_VT1__2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 8:00am +07

ตอนนี้คนจีนมาที่นี่เยอะมาก เขามาไกลจากเมืองจีน ถามว่ามาทำอะไร มาแสวงหาธรรมะ แล้วจะเจอไหม ไม่เจอหรอก ธรรมะไม่ได้อยู่เมืองไทย ธรรมะไม่ได้อยู่ที่วัดสวนสันติธรรม ธรรมะไม่ได้อยู่ที่หลวงพ่อ ถ้ามาแสวงหาธรรมะที่หลวงพ่อ ก็ยังแสวงหาออกนอกอยู่ อยากเข้าใจธรรมะจริงๆ ให้ค้นคว้าเข้าไปในกายในใจของตัวเอง อย่าให้เกินร่างกายออกไป เรียนรู้ลงไปเรื่อยๆ เรียนกรรมฐานไม่ใช่เรียนที่อื่น ไม่ใช่มารอรับธรรมะจากหลวงพ่อ ไม่ใช่รอมาวัด ธรรมะไม่ได้อยู่ที่หลวงพ่อ ธรรมะไม่ได้อยู่กระทั่งกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ท่านจะตรัสรู้หรือไม่ตรัสรู้ ธรรมะก็มีอยู่แล้ว ฉะนั้นธรรมะเป็นของประจำโลกอยู่แล้ว ไม่ได้อยู่ที่ใคร อยู่ที่เราจะต้องฝึกจิตใจตัวเองให้เห็นธรรมะ ไม่ใช่ทำให้ธรรมะเกิดขึ้นหรอก ฝึกจนกระทั่งเห็นความจริง สูงสุดนั้นก็คือตัวอริยสัจ 4 ตราบใดที่ไม่รู้อริยสัจ 4 เรายังไม่พ้นการเวียนว่ายตายเกิดหรอก หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 23 ธันวาคม 2566

Direct download: 661223.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

Direct download: 660701_VT2.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 660701_VT1v2___.mp3
Category:short clips -- posted at: 8:00am +07

อันแรกเลยศีล 5 ต้องรักษา ทุกวันต้องทำในรูปแบบ เลือกอารมณ์กรรมฐานมาสักอย่างหนึ่ง ที่เราถนัด ที่เราอยู่ด้วยแล้วเรามีความสุข เราก็อยู่กับอารมณ์อันนั้นไปด้วยความมีสติ ไม่เพลิดเพลินในอารมณ์อันนั้น ไม่ไปเพ่งจ้องในอารมณ์อันนั้น ไม่หลงลืมอารมณ์นั้น อยู่กับมันด้วยความเป็นกลางสบายๆ จิตก็จะสงบ จิตได้พักผ่อน จิตจะมีแรงขึ้นมา แล้วการที่เราทำกรรมฐานแล้วเราคอยรู้เท่าทันจิตตัวเองด้วย นอกจากจะสงบ เรายังจะได้สมาธิอีกชนิดหนึ่งแถมมาด้วย คือจิตจะตั้งมั่นอัตโนมัติ พอตั้งมั่นแล้วก็มีแรงแล้วก็ต้องเดินปัญญา พวกเราเดินปัญญาในฌานได้ไม่กี่คนหรอก เราก็เดินปัญญาอยู่ข้างนอกนี้ล่ะ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นกระทบรส กายกระทบสัมผัส ใจกระทบความคิดนึกปรุงแต่ง แล้วจิตเราเกิดปฏิกิริยาขึ้นมา เกิดสุขให้รู้ เกิดทุกข์ก็ให้รู้ เกิดกุศลก็ให้รู้ เกิดโลภก็ให้รู้ เกิดโกรธก็ให้รู้ เกิดหลงก็ให้รู้ ฟุ้งซ่านก็รู้ หดหู่ก็รู้ ตามรู้ตามเห็นไปเรื่อยๆ แล้วต่อไปปัญญามันก็พอกพูนขึ้น ถึงจุดหนึ่งก็จะเข้าสู่สังขารุเปกขาญาณ มันรู้จริงแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดแล้วดับ มันก็เลยเป็นกลาง ไม่หลงยินดีกับสุข ไม่หลงยินร้ายกับทุกข์ ไม่หลงยินดีกับกุศล ไม่หลงยินร้ายกับอกุศล ถ้าเดินปัญญาถึงจุดนี้ เราเข้ามาสู่ประตูของอริยมรรคอริยผลแล้ว ถ้าบุญบารมีเราสะสมมาเพียงพอ อริยมรรคอริยผลจะเกิดขึ้น ไม่มีใครสั่งจิตให้เกิดอริยมรรคอริยผลได้ จิตเกิดอริยมรรคอริยผลของจิตเอง เมื่อศีล สมาธิ ปัญญานั้นสมบูรณ์แก่รอบแล้ว หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 17 ธันวาคม 2566

Direct download: 661217.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

1 « Previous 3 4 5 6 7 8 9 Next » 97