หนีโลกกับเหนือโลก ไม่เหมือนกัน หนีโลกนี่เหมือนคนอ่อนแอ แพ้ผัสสะ แสวงหาแต่ความสุขความสบายอะไรอย่างนี้ ไม่อยากกระทบอารมณ์ พวกหนีโลกนี่ไม่สามารถพ้นโลกได้ มันเอาแต่หนี มันก็จะหนีจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง ในขณะที่พวกที่เรียนรู้โลก สิ่งที่เรียกว่าโลกก็คือกายกับใจเรานี่ล่ะ เรียนรู้มากๆ เห็นความจริงของกาย เห็นความจริงของใจ จิตมันคลายความยึดถือในกายในใจ จิตไม่ยึดถือกาย ไม่ยึดถือใจ ก็เรียกจิตมันพ้นโลก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 4 กรกฎาคม 2564 ไฟล์ 640704 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640704.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

ถ้าเรามีความเห็นถูก มีความคิดถูก มีคำพูดถูก มีการกระทำถูก มีการเลี้ยงชีวิตถูก มีความเพียรถูก มีสติถูก มีสมาธิถูก อริยมรรคมันก็เกิดขึ้น พอถึงจุดที่สมาธิถูก จิตมันถึงสัมมาสมาธิแล้ว สัมมาญาณะคือปัญญาที่ถูกต้องมันจะเกิด แล้วจิตรวมลงไปเราจะเห็นสภาวะเกิดดับอยู่ภายใน ตรงนี้ญาณทัสสนะที่แท้จริงมันเกิดแล้ว แล้วถัดจากนั้นมรรคผลก็เกิด ตรงที่มรรคผลเกิดก็เป็นสัมมาวิมุตติเกิดขึ้น หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 3 กรกฎาคม 2564 ไฟล์ 640703 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640703.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

ชีวิตเราไม่ได้ยืนยาวเท่าที่เราคิดหรอก ชีวิตเราเป็นขณะๆ ไป ชีวิตขณะนี้มีความสุข ชีวิตขณะนี้มีความทุกข์ ชีวิตที่สุขอยู่ชั่วคราวแล้วก็ดับ ชีวิตที่ทุกข์อยู่ชั่วคราวแล้วก็ดับ ชีวิตที่มีกุศล ชีวิตที่มีอกุศลก็อยู่ชั่วคราวแล้วก็ดับ ตรงที่เราทำวิปัสสนาเราก็จะเห็นอย่างนี้ เรามีชีวิตอยู่ชั่วขณะจิตเท่านั้นเอง ชีวิตที่มีอยู่ชั่วขณะจิต แล้วเรามีสติมีปัญญาระลึกรู้ลงตรงนี้ได้ จิตไม่หลงไปอดีต จิตไม่หลงไปอนาคต ถ้าเราอยู่กับปัจจุบันได้จริงๆ เราจะไม่คร่ำครวญถึงอดีต เราจะไม่เพ้อฝันกังวลถึงอนาคต บางทีก็ใฝ่ฝันปลื้ม บางทีก็กังวลถึงอนาคต เราอยู่กับปัจจุบันซึ่งเป็นความจริง ไม่ใช่ความจำในอดีต ไม่ใช่ความคิดในอนาคต ชีวิตที่อยู่กับความจริงในปัจจุบัน เป็นชีวิตที่ทุกข์ไม่ได้หรอก -- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 27 มิถุนายน 2564 ไฟล์ 640627 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640627.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ มันเกิดด้วยกัน แล้วถ้าสัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิมันทำงานได้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่าปัญญาที่แท้จริงจะไม่เกิด สัมมาญาณะ คือตัวปัญญาที่ถูกต้องจะเกิด เมื่อสัมมาญาณะเกิด คือมีปัญญาที่ถูกต้องเกิดแล้ว สัมมาวิมุตติ วิมุตติที่แท้จริงก็จะเกิด ทำไมมีคำว่าสัมมาด้วย มันมีมิจฉาเหมือนกัน นั่งสมาธิแล้วก็ลืมเนื้อลืมตัว จิตวูบหมดความรู้สึกตัวแล้วบอกบรรลุมรรคผล มันมิจฉาวิมุตติ สัมมาวิมุตติก็คือเกิดอริยมรรค อริยผล ก็อาศัยที่เรามีสติคอยรู้สึกๆ อยู่ในกายในใจเรื่อยๆ ตรงที่เรามีสติคอยรู้สึกอยู่ในกายในใจ สัมมาวายามะก็เกิด สัมมาสติก็เกิด สัมมาสมาธิก็เกิด เกิดอัตโนมัติ ฉะนั้นสติไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อันนี้พูดถึงในส่วนของการฝึกจิต ที่จริงแล้วสติครอบคลุมองค์มรรคทั้งหมดเลย ถ้าเราขาดสติตัวเดียวองค์มรรคไม่มีเหลือเลย -- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 26 มิถุนายน 2564 ไฟล์ 640626 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640626.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

สติปัฏฐาน 4 ถ้าเราฝึกไป เบื้องต้นทำให้เกิดสติ เบื้องปลายทำให้เกิดปัญญา แล้วสติปัฏฐาน 4 นี่ไม่ว่าหมวดใดหมวดหนึ่ง สามารถทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ ถ้าเราไปอ่านพระไตรปิฎกจริงๆ อย่างมหาสติปัฏฐานสูตร ลงท้ายแต่ละบรรพแต่ละบทจะลงท้ายเหมือนกันหมดเลย ว่าท่านถอดถอนความยินดียินร้ายในโลกเสียได้ ถ้าถอดถอนความยินดียินร้ายในโลกเสียได้ มันก็พ้นโลกเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นเจริญกายานุปัสสนาก็พ้นโลกได้ เจริญเวทนานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา ธัมมานุปัสสนาก็พ้นโลกได้ทั้งสิ้น -- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 20 มิถุนายน 2564 ไฟล์ 640620 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640620.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 5:00pm +07

สมถะกับวิปัสสนาเป็น 2 สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอน บอกว่า “สมถะและวิปัสสนาเป็นธรรมที่ควรเจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง” คู่นี้เป็นสิ่งที่ต้องเจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง คู่นี้คือมรรค สมถะและวิปัสสนาคือมรรคที่เราต้องเจริญด้วยปัญญาอันยิ่ง ท่านย้ำว่าด้วยปัญญาอันยิ่ง สมถะทำแบบไร้สติ ไร้ปัญญา ใช้ไม่ได้ ทำวิปัสสนาแต่ว่าไม่ประกอบด้วยปัญญา ทำด้วยความงมงาย ใช้ไม่ได้ ปัญญานั้นเราต้องเห็นความจริง มันถึงจะเป็นปัญญา รู้ถูกเข้าใจถูกมันถึงจะเป็นปัญญา ฉะนั้นคู่นี้ทิ้งกันไม่ได้ สมถะกับวิปัสสนาเกื้อกูลกัน ช่วยเหลือกัน ประคับประคองกันให้ก้าวไปสู่เส้นทางแห่งโพธิ สู่เส้นทางแห่งมรรคผล หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 19 มิถุนายน 2564 ไฟล์ 640619 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640619.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 5:00pm +07

การปฏิบัติทิ้งเรื่องจิตไม่ได้หรอก เริ่มจากจิต มีจิตเป็นผู้รู้ เอาจิตที่เป็นผู้รู้ไปเจริญปัญญา เจริญปัญญามากเข้า จิตก็รวมลงที่จิตอีก เข้าอัปปนาสมาธิ เข้าของมันเอง เพราะมันไม่มีความยินดียินร้ายแล้ว แล้วมันก็มาตัดกิเลสที่จิต ที่มรรคจิต สัมผัสพระนิพพานด้วยจิต เรียกว่าผลจิต เรื่องของจิตทั้งนั้น ฉะนั้นจะชอบเรื่องจิตหรือไม่ชอบเรื่องจิต ก็ทิ้งเรื่องจิตไม่ได้ ครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่ อย่างหลวงปู่มั่น ท่านถึงบอก “ได้จิตก็ได้ธรรม ไม่ได้จิตก็ไม่ได้ธรรม” ได้จิตก็จะได้ธรรมะ ไม่ได้จิตก็ไม่ได้ธรรมะหรอก ฉะนั้นจิตนั้นมันเป็นกุญแจของการปฏิบัติ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 13 มิถุนายน 2564 ไฟล์ 640613 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640613.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 5:00pm +07

คนที่มีความเมตตา อย่าว่าแต่มนุษย์เลย สัตว์มันยังรักเลย อย่างสัตว์ร้ายๆ ใจเรามีเมตตาอยู่ สัตว์ก็ไม่ทำร้ายเรา ยกเว้นสัตว์ที่มันบาดเจ็บมันถูกคนทำร้ายมาจนฝังใจ พวกนี้ถึงเจอคนมีเมตตามันก็กัดเอาเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นสัตว์ทั่วๆ ไป เราเห็นมัน เราเมตตามัน มันก็เมตตากับเรา เป็นมิตรกับเรา กระแสของความเมตตามันร่มเย็น หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 12 มิถุนายน 2564 ไฟล์ 640612 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640612.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

วิธีที่จะเรียนรู้ธรรมะ ก็คือการที่คอยรู้ลงที่กายที่ใจของตัวเอง ธรรมะแสดงอยู่ที่กายที่ใจนี้ มีสติคอยรู้ลงไป มีจิตตั้งมั่น ไม่ถลำลงไปรู้ ในที่สุดปัญญาก็เกิด ร่างกายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จิตไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ฉะนั้นการที่เราฟังธรรมหรืออ่านธรรมะ เพื่อให้รู้วิธีปฏิบัติ วิธีปฏิบัติธรรม เรียนรู้ธรรมที่แท้จริง คือการเรียนรู้กาย เรียนรู้ใจ จะเรียนรู้กาย เรียนรู้ใจได้ ใจต้องมีความตั้งมั่น มีสมาธิ สติต้องระลึกลงในกาย สติต้องระลึกลงในใจ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 6 มิถุนายน 2564 ไฟล์ 640606 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640606.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

กิเลสมันมีชั้นเชิงของมัน ฉะนั้นเราก็รักษาศีลไว้ แล้วก็เจริญสติ เจริญปัญญาของเราเรื่อยๆ ไป มีจิตเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ดูกายดูใจทำงานไปเรื่อยๆ จะเห็นว่ากายนี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จิตนี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มันก็จะทำลายอาสวะเป็นระดับๆ ไป ไม่ยากหรอกแต่ต้องอดทน หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 5 มิถุนายน 2564 ไฟล์ 640605 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640605.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 5:00pm +07

ถ้าไม่มีโอกาสพบครูบาอาจารย์ สังเกตตัวเองเอา ทางที่ดี สังเกตตัวเองดีที่สุด ครูบาอาจารย์ที่เราพบ ไม่แน่ว่ารู้จริง เราอาจจะเจอของเก๊ของปลอม คิดว่ารู้ พาเราเตลิดเปิดเปิงไปเลยก็ได้ แต่กิเลสเรานี่ถ้าเรามีสติมีปัญญาจริงๆ สอดส่องดูแลจิตใจตัวเองดีจริง กิเลสมันหลอกเราไม่ได้หรอก วันหนึ่งเราก็รู้ทันมันว่าติดตัวนี้อยู่ๆ พอรู้ว่าติดตัวไหน แล้วก็จะพ้นจากการติดอันนั้น ติดอยู่เพราะไม่รู้ ถ้ารู้แล้วไม่ติด ค่อยๆ ฝึกไป ทำอย่างนี้เราก็จะช่วยตัวเองได้ ไม่ต้องฟังคนอื่นมาก ฟังจิตตัวเองให้ดี หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 30 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640530 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640530.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

ธรรมะประจำโลก ไม่ใช่ธรรมะเดี่ยวๆ มันมี 2 ด้านที่อยู่คู่กัน มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีนินทา มีสรรเสริญ มีสุข มีทุกข์ เมื่อธรรมชาติของโลก ธรรมะประจำโลกมันเป็นอย่างนี้ เราอยากให้มันไม่เป็นอย่างนี้ มันจะทุกข์ แต่ถ้าเราเข้าใจโลก ว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ ความอยากมันก็ไม่เกิดขึ้น ฉะนั้นถ้าเรารู้ความจริง เราเข้าใจความจริง ถ้าจะอยู่กับโลก ธรรมะประจำโลกก็คือโลกธรรม 8 ข้อ เราเข้าใจโลกธรรม 8 ข้อ ความทุกข์ก็จะหายไปจากใจเราเยอะแยะเลย หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 29 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640529 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640529.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

สังเกตให้ดีในโพชฌงค์ 7 เริ่มจากสติ ลงท้ายด้วยอุเบกขา ความเป็นกลาง เวลาเราดูในสติปัฏฐาน 4 ลองไปอ่านดู ลงท้ายของการเจริญสติปัฏฐาน ท่านบอก “ถอดถอนความยินดียินร้ายในโลกเสียได้” ถอดถอนความยินดียินร้ายในโลกเสียได้ ก็คือเป็นกลางเป็นอุเบกขานั่นล่ะ ฉะนั้นที่เราภาวนา เจริญสติ เจริญปัญญา จนกระทั่งในที่สุดเราเป็นกลางกับโลก โลกก็เป็นโลกอยู่อย่างนั้น แต่ใจเราไม่เกี่ยวกับโลก ก็พ้นทุกข์ไป หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 26 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640526 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640526.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

การทำในรูปแบบจำเป็น ทำให้จิตมีกำลัง ถ้าจิตไม่มีกำลัง มันเหมือนมีดทื่อๆ เอามีดทื่อๆ ไปฟันต้นไม้ป๊อกๆๆ ไม่ได้เรื่อง ต้นไม้ไม่สะเทือน แต่จิตมันมีสมาธิ มันมีกำลัง มันเหมือนมีดที่ลับไว้คมแล้ว เหมือนพร้าอะไรอย่างนี้ ฟันฉับเดียว ฟันอะไรก็ขาดสะบั้นเข้าไปตรงนั้น อีกหน่อยมันจะไปฟันอาสวกิเลส ฟันขาด อาสวะที่มันห่อหุ้มจิตอยู่ จิตก็หลุดพ้นจากอาสวะ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 23 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640523 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640523.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

เรามีสติรักษาจิตของตัวเองไว้ให้ดี การรักษาจิตนั้น อาศัยสติรักษา ไม่ใช่เรารักษา สติทำหน้าที่อารักขา สติเป็นผู้รักษาจิต ถ้าเรามีสติรักษาจิตอยู่ อกุศลที่มีอยู่มันจะดับ อกุศลใหม่จะเกิดขึ้นไม่ได้ในขณะที่มีสติ การที่เรามีสติรักษาจิตนั้น จิตมันจะเป็นกุศลอัตโนมัติ พอเรามีสติเนืองๆ กุศลมันก็เจริญขึ้นมา งอกงามขึ้นมาเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา เป็นวิมุตติ หัดสังเกตจิตใจตนเองเนืองๆ หัดดู หัดรู้สึกจิตใจของตัวเองไป การดูจิตไม่ได้เอาตาไปดู จิตเป็นนามธรรมเรารู้ด้วยใจ นามธรรมทั้งหลายไปรู้ด้วยรูปไม่ได้ ตามันเป็นรูปไปดูนามธรรมไม่เห็น เรารู้ด้วยใจของเรา จิตมันสุข จิตมันทุกข์เราก็รู้เอา จิตมันดี จิตมันชั่ว เราคอยรู้เอา -- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 22 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640522 ซีดีแผ่นที่ 90

Direct download: 640522.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

สิ่งที่ศาสนาพุทธตอบโจทย์ก็คือ ทำอย่างไรจะไม่ทุกข์ การหาคำตอบว่าทำอย่างไรจะไม่ทุกข์ คนทั้งหลายสัตว์ทั้งหลายก็แสวงหา บางคนก็มองแค่ว่ามีกินมีใช้ ไม่เจ็บป่วยอะไรอย่างนี้ก็ไม่ทุกข์ พอเราได้รับความมั่นคงระดับพื้นฐานแล้ว มีกินมีใช้ มีที่อยู่อาศัยอะไรอย่างนี้ บางคนก็ยังทุกข์อีก ที่จริงก็คือทุกคนก็ยังทุกข์อยู่อีก มีแต่คำสอนของพระพุทธเจ้าที่จะตอบโจทย์ ให้ทุกคนสามารถจะมีชีวิตอยู่โดยไม่ทุกข์ได้ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 16 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640516 ซีดีแผ่นที่ 89

Direct download: 640516.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 5:00pm +07

เราฝึกไปเรื่อยๆๆ รักษาใจของเราไว้ให้ดี ถ้าเรารักษาใจของเราดี เวลาเราเจอครูบาอาจารย์ ธรรมะที่ท่านถ่ายทอดให้ก็จะประณีต หรือบางทีเราไม่ได้เจอครูบาอาจารย์นานๆ หลายเดือนหรือเป็นปี เวลาเราภาวนาจิตเราสงบตั้งมั่น คอยรู้เนื้อรู้ตัว มีสติรักษาจิตอยู่เนืองๆ ตรงไหนที่ติดขัด ธรรมะจะถ่ายทอดมาสู่จิตของเราได้ จิตของพระ จิตของครูบาอาจารย์ เหมือนสถานีวิทยุ มันแผ่กระแสธรรม แผ่กระแสเมตตาออกไปครอบโลก ครอบจักรวาลอยู่แล้ว อยู่ที่ใครจะรับได้ ถ้ายังมีบุญอยู่ก็รับได้ หรือมีการปฏิบัติที่ดี มันก็รับได้ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 15 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640515 ซีดีแผ่นที่ 89

Direct download: 640515.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

ภาวนา เราค่อยๆ สังเกตไป มันมีธรรมะอยู่คู่หนึ่งที่เราจะต้องเรียนรู้ คือเรื่องจิตกับอารมณ์เป็นของคู่กัน จิตเป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ อารมณ์เป็นสิ่งที่ถูกจิตรู้ ฉะนั้นเราค่อยๆ ฝึก อยู่ๆ เราจะเห็นจิตใจตัวเอง มันก็เห็นไม่ได้ จะรู้ทันอารมณ์มันก็ไม่ค่อยรู้ ส่วนใหญ่มันถูกอารมณ์ย้อม ถูกอารมณ์ครอบงำ อารมณ์ที่เราจะใช้ในการปฏิบัติ ก็คือพวกรูปธรรมกับนามธรรม ส่วนอารมณ์บัญญัติคือเรื่องราวที่คิด ใช้อะไรไม่ได้ มันฟุ้งซ่าน แต่ห้ามมันคิดก็ห้ามไม่ได้หรอก ถ้ามันจะคิดเราก็รู้ทัน จุดสำคัญ รู้รูปธรรมนามธรรม อันนี้เป็นของถูกรู้ แล้วจิตมันเป็นคนรู้รูปธรรมนามธรรม -- หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 9 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640509 ซีดีแผ่นที่ 89

Direct download: 640509.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

Direct download: 640508_T1_.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00pm +07

พอจิตมันเป็นผู้รู้แล้ว ถึงจะเดินปัญญาได้จริง ถ้าจิตมันไม่ตั้งมั่น มันเดินปัญญาไม่ได้จริงหรอก มันฟุ้งซ่าน ที่หลวงพ่อสอนมาตลอดตั้งแต่อยู่สวนโพธิ์ บอกไม่เผลอกับไม่เพ่ง ฟังแล้วดูตลก กรรมฐานอะไร บอกไม่เผลอกับไม่เพ่ง ที่จริงมันคือการปรับพื้นฐานของสมาธินั่นเอง สมาธิไม่มี ใจฟุ้งซ่าน เผลอไป สมาธิไม่ถูกต้อง เพ่งเอาไว้เคร่งเครียด ตรงที่ใจฟุ้งซ่านนั้นเราไม่สามารถรู้กายรู้ใจได้ ตรงที่เราเพ่งไว้เคร่งเครียด เรารู้กาย เรารู้ใจได้ แต่เราไม่สามารถจะเห็นความจริงของกายของใจได้ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 8 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640508 ซีดีแผ่นที่ 89

Direct download: 640508.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

เราเห็นทุกข์เห็นโทษ เห็นความน่าเบื่อหน่าย อยากหนี แต่หนีไม่ได้ จะหนีจากกาย จะหนีจากใจ มันหนีได้ที่ไหน พอหนีไม่ได้ เราพยายามดูต่อไป อดทนเอา ตรงนี้หลายคนก็ผ่านไม่ไหว เห็นมันเบื่อเลยเลิกปฏิบัติไปเลย เห็นแต่ทุกข์เห็นแต่โทษ ทำไมชีวิตไม่รื่นเริงเหมือนชาวบ้านเขาบ้าง อดทนไว้ อย่าถอย มันเป็นทางผ่าน มันเป็นด่าน เป็นกับดักอันใหญ่ที่จะดักเราไม่ให้ก้าวต่อไป หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 2 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640502 ซีดีแผ่นที่ 89

Direct download: 640502.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

สิ่งที่เรียกว่าสภาวธรรม ก็คือรูปธรรมกับนามธรรมเท่านั้น มี 2 อย่างรูปธรรม นามธรรม สภาวธรรมมีอีกอย่างหนึ่ง คือนิพพาน ปุถุชนไม่เห็น ฉะนั้นยังไม่ต้องสนใจ ถ้าสนใจตัวรูปธรรม ตัวนามธรรม ดูรูปธรรม นามธรรมเรื่อยๆ จนมันเห็นไตรลักษณ์ ไตรลักษณ์คือความจริง รูปธรรม นามธรรมเป็นของจริง ส่วนเรื่องราวที่คิดเป็นบัญญัติไม่ใช่ของจริง เราดูของจริง คือดูรูปธรรม ดูนามธรรม แต่ต้องดูจนเห็นความจริงคือไตรลักษณ์ ฉะนั้นสิ่งที่ต้องการเห็นจริงๆ คือไตรลักษณ์ของรูปธรรม นามธรรม หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 1 พฤษภาคม 2564 ไฟล์ 640501 ซีดีแผ่นที่ 89

Direct download: 640501.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

วันใดภาวนาจนถึงจุดที่มันไม่ยึดถืออะไร มันก็ไม่มีภาระอะไร มันก็ไม่มีทุกข์อะไรเลย ที่สุดของการปฏิบัตินั้น อยู่ที่เราไม่ทุกข์อีกต่อไปแล้ว สิ่งเหล่านี้มีอยู่ อยู่ที่ว่าเราจะทำหรือไม่ทำ ถ้าเราอดทน เรียนรู้ตัวเองเรื่อยๆ ไป ธรรมะไม่ต้องเรียนที่อื่น เรียนที่ตัวเอง อย่างพวกเราบางคนกังวล ว่าไม่ได้เจอหลวงพ่อแล้วจะไม่ได้ปฏิบัติ ไม่จริงหรอก เพราะว่าจริงๆ ธรรมะอยู่ที่ตัวเราเอง ถ้าหากเราเป็นนักปฏิบัติจริงๆ เราจะไม่รู้สึกว่าเราอยู่ไกลครูบาอาจารย์ แต่เราจะรู้สึกว่าครูบาอาจารย์อยู่กับเราทั้งวันเลย หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 30 เมษายน 2564 ไฟล์ 640430 ซีดีแผ่นที่ 89

Direct download: 640430.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

จิตคือธรรมชาติที่รู้อารมณ์ แล้วเราจะดูจิตได้อย่างไร อาศัยสติ อาศัยสมาธินั่นล่ะก็เห็นการทำงานของจิต อย่างเห็นจิตมันตรึกคือมันคิดขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องที่คิด เห็นอาการที่จิตคิด พอเห็นอย่างนี้เท่านั้นเอง จับหลักได้แล้ว จิตคือธรรมชาติที่รู้อารมณ์ จิตอยู่ในกายนี้ ไม่เกินกายออกไป จิตเป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 25 เมษายน 2564 ไฟล์ 640425 ซีดีแผ่นที่ 89

Direct download: 640425.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

ส่วนใหญ่เท่าที่ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกมา พวกฆ่าตัวตายตกนรก ไม่มีข้อยกเว้นว่าใครฆ่าตัวตาย ไม่มีข้อยกเว้นว่าถ้าคนระดับนี้ฆ่าตัวตายไม่ตกนรก ส่วนใหญ่ฆ่าตัวตายก็ต้องรับกรรม ตกนรกไป บางทีมีชีวิตอยู่มีความทุกข์ มีความทุกข์ก็ไปฆ่าตัวตาย ฆ่าตัวตายเสร็จแล้วมันก็เดินร้องไห้ไปเรื่อยๆ มันตกนรกแล้วล่ะ แต่นรกนั้นมันไม่ได้ถูกใครขัง นรกมันอยู่ที่จิตของตัวเอง สร้างภพตายซ้ำตายซากอยู่อย่างนั้น วนๆๆ แล้วฆ่าตัวตายซ้ำๆๆๆ ไปเรื่อยๆ ฉะนั้นมันไม่มีข้อดีให้กับใครหรอก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 24 เมษายน 2564 ไฟล์ 640424 ซีดีแผ่นที่ 89

Direct download: 640424.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

1 « Previous 11 12 13 14 15 16 17 Next » 68