Thu, 17 December 2015
"ตรงที่เห็นว่าทุกอย่างชั่วคราว เรียกว่า อนิจจัง ตรงที่เห็นว่าเราบังคับมันไม่ได้ ไม่อยู่ในอำนาจ เรียกว่าอนัตตา ถ้าดูกายนี่จะเห็นทุกข์นะ เห็นทุกขได้ง่าย ทุกขัง คือทนอยู่ไม่ได้ ถูกบีบคั้น" พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เทศน์ที่วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ |
Wed, 16 December 2015
"ที่มาฝึกจิตผึกใจจะเอาดี จะเอาสุข จะเอาสงบ คือฝึกสร้างภพนั่นเอง ให้รู้ลงไปเลย จิตมีความโลภ มีตัณหาขึ้นมา รู้ทันลงไป แล้วก็รู้สึกกาย รู้สึกใจไปเรื่อย ต่อไปสติปัญญาแก่รอบขึ้นมา ตัณหาไม่เกิด ตัณหามันระงับไป ใจก็ไม่กระเพื่อมหวั่นไหว ไม่ปรุงแต่ง ไม่สร้างภพ" พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เทศน์ที่วัดพระธาตุโกฏิแก้ว จ.เชียงราย วันที่ ๒๑ พฤศจิการยน ๒๕๕๘ |
Mon, 14 December 2015
"ถ้าเรารู้วิธีของพระพุทธเจ้า ในเวลาเดือนหนึ่ง สองเดือนสามเดือนจะเริ่มเห็นผล เวลาไม่นานจะเริ่มเห็นผลว่าชีวิตจิตใจของเราจะเปลี่ยนไป เราเคยทุกข์มากเราเหลือก็ทุกข์น้อย เคยทุกข์นานเราก็เหลือทุกข์สั้น เปลี่ยนด้วยตัวเอง รู้สึกด้วยตัวเอง" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ |
Mon, 14 December 2015
"ไม่มีใครทำให้จิตบรรลุมรรคผลนิพพานได้หรอก จิตเขาเป็นของเขาเอง เราเพียงแต่สร้างเงื่อนไขที่เกื้อกูลให้จิตบรรลุมรรคผลนิพพาน พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องศีลสิกขา จิตสิกขา ปัญญาสิกขาเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเราได้เจริญ-เรียนอยู่ในสามบทเรียนนี้ ถึงจุดหนึ่งจิตจะฉลาด จิตก็หลุดพ้นของจิตเอง" พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เทศน์ที่ราชกรีฑาสโมสร วันที่ 15 พ.ย. 2558 |
Wed, 2 December 2015
"รากเหง้าเลยนะ ที่ทำให้จิตยึดจิต หรือ จิตยึดขันธ์ คือความไม่เห็นทุกข์ ถ้าจิตเห็นทุกข์แจ่มแจ้ง จิตจะไม่ยึดขันธ์ หน้าที่ของเรานักปฏิบัติ ท่านสอนว่าให้รู้ทุกข์ สิ่งที่เรียกว่าทุกข์คือรูปนามขันธ์ ๕ คือกายคือใจนี้เอง รู้บ่อยๆ รู้อย่างที่เขาเป็นบ่อยๆ ถ้ารู้ได้แล้วจิตจะไม่ยึดถือ" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 10 ตุลาคม 2558 |
Wed, 2 December 2015
"ใจอยากจะทำกรรมฐานรู้ว่าอยาก ใจอยากจะพ้นทุกข์รู้ว่าอยาก รู้ทันใจที่อยาก แค่ตัวเดียวนี่ก็พอเหลือเฟือแล้ว กรรมฐานที่จะให้เราพ้นทุกข สำหรับคนแต่ละคนนั้นนิดเดียว ไม่ได้เยอะอะไรหรอก" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 2 ตุลาคม 2558 |
Fri, 20 November 2015
"สังเกตเอา สังเกตของจริง ร่างกายนี้มันสุขหรือมันทุกข์ มันบังคับได้จริงหรือไม่ได้จริง สังเกตเอาว่าจิตใจนี้เที่ยงหรือไม่เที่ยง บังคับได้หรือไม่ได้ ค่อยๆ ดูค่อยๆ สังเกตไป สบายสบาย ไม่รีบร้อน ถ้ารีบร้อนน่ะใจวุ่นวาย เรียกว่าเสียสมาธิเลย ใจวุ่นวาย ฟุ้งซ่าน จะรีบๆ ดูนะ ใจฟุ้งซ่านไม่มีความสุขความสงบละ มันดูไม่รู้เรื่อง" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๘ |
Fri, 20 November 2015
"ใจไม่เป็นกลาง ใจจะดิ้น ดิ้นแล้วก็ดูสภาวะได้ไม่ชัด ถ้าใจไม่ดิ้น ใจสงบ ใจสบาย ใจเป็นกลาง มันจะรู้ทุกอย่างตรงตามความเป็นจริง มันจะเห็นเลยว่าสุขทุกข์ดีชั่วทั้งหลายนั้นมาแล้วก็ไป ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา จิตทำหน้าที่เป็นคนดู เมื่อเห็นมากเข้าๆ ปัญญาแก่กล้ามากขึ้น ในที่สุดจิตจะเข้าสู่ความเป็นกลางเพราะปัญญา" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๘ |
Sat, 7 November 2015
"ร่างกายอันหนึ่ง ทุกขเวทนาอันหนึ่ง ความไม่ชอบเป็นตัวสังขาร จิตเป็นคนรู้ เราไม่รักษาตัวใดตัวหนึ่ง เราเห็นแต่ละตัวว่าทำหน้าที่ของมันไป" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่บ้านจิตสบาย วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ |
Thu, 5 November 2015
ธรรมะภาคปฏิบัติ ต้องเอาใจมาแลกกัน คนฟังต้องมีความสนใจ อยากจะฟังธรรมะ ต้องมีความสงบ มีความสำรวม มีสมาธิ ธรรมะก็จะถ่ายทอดจากผู้แสดงไปสู่ใจของผู้ฟัง เรียกว่าเรียนกันด้วยจิตต่อจิต ไม่ใช่เรียนกันด้วยปากกับสมอง |
Wed, 4 November 2015
ธรรมะบรรยายโดยพระอาจารย์สมชาย กิตฺติญาโณ (ครูบาอ๊า) "ประวัติครูบาอาจารย์" ในคอร์สคนจีน 5 พร้อมแปลภาษาจีน วันที่ 14 กันยายน 2558 |
Mon, 2 November 2015
"ใจเราเป็นยังไงเรารู้ได้ทุกคน หลวงปู่ถึงบอกว่าการปฏิบัติไม่ยาก ยากเฉพาะคนไม่ปฏิบัติ คือคนไม่สนใจจะดู ถ้าสนใจจะดูจะยากอะไร ใจเราสุขเราก็รู้ ใจเราทุกข์ก็รู้" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๘ |
Sat, 31 October 2015
"พวกเรานี่มีความฟุ้งซ่านเป็นอาภรณ์ เรามีสติตามรู้มันไปเลย เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์เดี๋ยวดีเดี๋ยวชั่ว ทุกอย่างไม่คงที่ ทุกอย่างบังคับไม่ได้ ไม่นาน พอใจมันได้เห็นบ่อยๆ เข้า มันก็หายโง่ มันจะโง่สักแค่ไหนก็ไม่เป็นไรนะ ขอให้ได้เห็นบ่อยๆ สุดท้ายมันก็หายโง่จนได้ล่ะ" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๑ วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๘ ช่วงสอง |
Sat, 31 October 2015
"มีการเจริญปัญญานั้นแหละ จะทำให้เราเข้าถึงความบริสุทธิ์หลุดพ้นได้ แต่การเจริญปัญญาเดี่ยวๆ ทำไม่ได้ ต้องมีเงื่อนไขพื้นฐาน เราก็ต้องมีความดีพื้นฐานทั้งหลาย อย่างการที่เรารู้จักทาน การให้ ใจจะคลายออก คลายความเห็นแก่ตัวลง ภาวนาง่ายขึ้นๆ คนที่ภาวนาเพื่อจะเอานะ ภาวนาไม่สำเร็จหรอก อย่างภาวนาหวังจะได้มรรคผล ภาวนาไม่ได้กินหรอก ... ถ้าเรารู้จัก เราทำอะไรไม่ใช่เพื่อเห็นแก่ตัวอย่างเดียว ใจจะเติบโตเร็ว" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๑ วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๘ ช่วงแรก |
Wed, 28 October 2015
"ตรงที่จิตฉลาดก็คือจิตเกิดปัญญาขึ้นมา แล้วถ้าปัญญาแก่รอบ บุญบารมีเรามากอริยมรรคก็จะเกิดขึ้น เมื่ออริยมรรคเกิดขึ้นแล้ว กิเลสใดที่ถูกอริยมรรคล้างแล้วจะไม่กลับมาอีก" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๑ วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๘ ช่วงสอง |
Wed, 28 October 2015
"ถ้าสิ่งที่เราทำอยู่ดีจริง เราควรจะพ้นทุกข์ไปบ้างแล้วล่ะ ไม่ใช่ปีนี้กับปีกลายก็เหมือนกัน สิบปีก่อนกับเดี๋ยวนี้ก็เหมือนกัน กี่ปีๆ ก็เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นเราต้องประเมินแล้วว่า สิ่งที่เราทำอยู่ ที่เราว่าดีนักหนานั้นไม่ดีจริงหรอก ถ้าดีจริงเราจะเปลี่ยนตัวเองได้ในเวลาอันสั้น ใช้เวลาไม่นานในการเปลี่ยนตัวเอง" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๑ วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๘ ช่วงแรก |
Sun, 25 October 2015
"จิตผู้รู้ทื่อๆ นี้เป็นจิตที่เป็นกุศลนะ แต่ไม่ประกอบด้วยปัญญา เรียกว่ามหากุศลจิตญาณวิปปยุตต์ ไม่ใช่ว่าจิตที่เป็นจิตผู้รู้จะดีเสมอไป บางดวงไม่มีปัญญาหรอก ซื่อบื้อไปอย่างนั้นเอง เพราะฉะนั้นต้องไม่ประคองนะ เอาแค่รู้ทันที่เขาเคลื่อน แล้วภาวะแห่งความตื่นตื่นขึ้นเอง ถึงจะใช้ได้" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่ชมรมกัลยาณธรรม วันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ |
Thu, 22 October 2015
"ธรรมะเป็นของกลางๆ แต่ว่าใจของเราซึมซับธรรมะได้ระดับไหนเราก็เข้าใจระดับนั้น ธรรมะนำความสุขมาให้ มีประโยชน์ มีความสุข" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่กลุ่มบริษัทชัยรัชการ วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๘ |
Thu, 22 October 2015
"ทำไมเรียกว่าผู้รู้ ผู้รู้ตัวนี้คือคำว่าพุทโธนั่นเอง คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ใจตั้งมั่นเด่นดวงเป็นคนดู" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๑ วันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๘ ช่วงสอง |
Thu, 22 October 2015
"มีศีลเป็นพื้นฐาน แล้วก็มาฝึกใจให้สงบ มีเรี่ยวมีแรงด้วยสมถกรรมฐาน ฝึกใจให้ฉลาดด้วยวิปัสสนากรรมฐาน รวมแล้วก็คือ เราจะเรียนเรื่อง ศีล เรื่องสมาธิ เรื่องปัญญา ถ้าทำได้แล้วเราก็จะเข้าไปสู่จุดสูงสุดที่ต้องการ คือความพ้นทุกข์สิ้นเชิง" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๑ วันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๘ |
Sun, 18 October 2015
"คนที่ให้โอกาสกับชีวิตตัวเองโดยการฝึกปฏิบัติธรรม กับคนซึ่งทำลายโอกาสของตัวเอง ปล่อยชีวิตให้จมไปวันหนึ่งๆ พอผ่านวันผ่านเวลาไปแล้ว คนสองคนนี้แตกต่างกันมาก เทียบกันไม่ติดหรอก พวกเรามีโอกาสได้ยินได้ฟังแล้ว ลองไปสังเกตปฏิบัติธรรมดู ... รักษาศีล ๕ ไว้แล้วก็คอยรู้สึกอยู่ที่ร่างกายรู้สึกอยู่ที่ใจ ดูกายมันทำงานดูใจมันทำงาน ฝึกไปเรื่อยๆนะ ไม่กี่เดือนหรอก เราจะรู้เลยว่าพระพุทธเจ้ามีจริง พระธรรมมีจริง พระอริยสงฆ์มีจริงๆ ชีวิตจิตใจเราเปลี่ยนได้จริงๆ " พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ |
Sat, 17 October 2015
"การเจริญปัญญา คือการเห็นไตรลักษณ์ อันใดอันหนึ่งก็พอแล้วไม่ต้องเห็นสามอย่าง ไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อนิจจัง หมายถึงว่าสิ่งซึ่งมีอยู่แล้วมันไม่มี ของเคยมีแล้วไม่มี ทุกขัง ของที่กำลังมีอยู่แล้วกำลังถูกบีบคั้นให้ไม่มี อนัตตา ของจะมีหรือของจะไม่มี บังคับไม่ได้ ไม่อยู่ในอำนาจ เป็นเรื่องมีหรือไม่มีนะ เกิดแล้วดับ " พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรมแผ่นที่ ๖๑ วันที่ 5 กันยายน 2558 |
Sat, 17 October 2015
"ลักขณูปนิฌาน คือสมาธิที่จิตตั้งมั่น เห็นลักษณะ ลักขณู คือเห็นลักษณะ คือเห็นไตรลักษณ์ได้ อารัมณูปนิฌาน คือจิตสงบอยู่ในอารมณ์อันเดียว อารัมมะ คืออารมณ์ สองคำนี้รู้จักสักหน่อยก็จะดี เวลาเรียนจะได้เข้าใจง่ายหน่อย ... ตัวที่เราใช้เดินปัญญาจนบรรลุมรรคผลคือลักขณูปนิฌาน แต่ตอนเดินปัญญาไปพอเหนื่อย กลับมาทำอารัมณูปนิฌานให้จิตสงบในอารมณ์ที่มีความสุข จิตมีความสุขมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาใหม่แล้วไปเดินปัญญาต่อ" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๑ วันที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๘ |
Sat, 17 October 2015
"อยากข้ามภพข้ามชาติ อยากจะทุกข์น้อยๆ ก็ต้องขยันภาวนาหน่อย ต้องทำในรูปแบบ ถ้าไม่ทำเลยต่อไปพลังของจิตจะไม่พอ จะมาเจริญสติในชีวิตประจำวันรวดๆ ไป ได้ช่วงเดียว อย่าว่าแต่พวกเราเลย หลวงพ่อฝึกสมาธิมาแต่เด็ก เจริญสติรวดไปเลย สมาธิที่ฝึก ๒๒ ปีเอามาใช้ได้ ๒ ปีเอง ก็ไม่พอแล้ว" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๑ วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๘ ช่วงสอง |
Fri, 16 October 2015
"รู้หลักนะ ตัวมิจฉาสมาธินั้นขาดสติ สัมมาสมาธิต้องมีสติ ถ้าเรานั่งไปแล้วเราเห็นผี เห็นเทวดา เห็นช้างม้าวัวควายอะไรโผล่ขึ้นมา ให้รู้เลยจิตออกนอกละ ไม่ได้เรื่องละ ต้องมีสติ ไม่เคลิ้ม ไม่ลืมตัว" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๑ วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๘ ช่วงแรก |