Direct download: 650904_VT2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

พวกเราก็คอยมีสติไว้ เรื่องการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน มีตาก็ดู มีหูก็ฟัง มีจมูกก็ดมกลิ่น มีลิ้นก็รู้รส มีกายก็กระทบสัมผัสเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว มีใจมันก็กระทบความคิดนึกปรุงแต่งทั้งหลาย พอกระทบแล้วจิตมันสะเทือนขึ้นมา มันปรุงสุข ปรุงทุกข์ ปรุงดี ปรุงชั่วขึ้นมา ให้เรามีสติรู้อยู่ที่จิต หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 10 ธันวาคม 2565

Direct download: 651210.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

Direct download: 650904_VT1.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 650903_VT2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 650903_VT1_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 650828_QT__.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

พยายามรู้สึกตัวไว้ ความรู้สึกตัวเป็นจุดตั้งต้นของการปฏิบัติ พระพุทธเจ้าท่านก็บอก ท่านไม่เห็นธรรมะอย่างอื่นสำคัญเหมือนความรู้สึกตัว ถ้ารู้สึกตัวได้ก็จะละกิเลสที่มีอยู่ได้ แล้วก็กิเลสใหม่ก็ถูกปิดกั้น เกิดไม่ได้ เวลาที่เรารู้สึกตัวอยู่ กิเลสมันเกิดตอนเผลอเท่านั้นล่ะ แล้วเวลาที่เรารู้สึกตัวอยู่ก็มีสติอยู่ จิตใจอยู่กับเนื้อกับตัว ตัวนั้นคือกุศล ถ้าเรารู้สึกตัวบ่อยๆ กุศลมันก็เจริญขึ้นมา พัฒนาออกมา งอกงามออกมา เป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา เป็นวิมุตติ พัฒนาเป็นลำดับไป ความรู้สึกตัวเป็นของมีค่ามาก แต่คนส่วนใหญ่ก็ละเลย ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ ไปให้ความสำคัญกับคนอื่น กับสิ่งอื่น ละเลยความสำคัญของความรู้สึกตัว ฉะนั้นเราพยายามรู้สึกตัวไว้ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็รู้สึกตัวไว้ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 4 ธันวาคม 2565

Direct download: 651204.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

Direct download: 650828_VT2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

จิตส่งออกนอกเป็นสมุทัย ผลที่จิตส่งออกนอกเป็นทุกข์ จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็นมรรค ผลที่จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งเป็นนิโรธ ธรรมดาของจิตย่อมส่งออกนอก เมื่อส่งออกนอกแล้วกระเพื่อมหวั่นไหว ก็เป็นสมุทัย ผลที่จิตส่งออกนอก แล้วกระเพื่อมหวั่นไหวไม่มีสติอยู่ก็เป็นทุกข์ จิตส่งออกนอกแล้วมีสติอยู่ ก็เป็นการเจริญมรรค ผลก็คือนิโรธ อนึ่งพระอริยเจ้าทั้งหลาย มีจิตไม่ส่งออกนอก มีจิตไม่กระเพื่อมหวั่นไหว มีสติสมบูรณ์เป็นวิหารธรรมอยู่ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 3 ธันวาคม 2565

Direct download: 651203.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

Direct download: 650828_VT1_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 650827_VT2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 650827_VT1_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

ไปฝึกเอาเพื่อชีวิตที่มีคุณค่า ชีวิตที่มีความสุข ชีวิตที่มีอนาคตที่แจ่มใส ถ้าเราไม่ได้ฝึกกรรมฐาน เราไม่มีชีวิตที่มีอนาคตที่แจ่มใส พวกเรามีความแก่รออยู่ข้างหน้า มีความเจ็บรออยู่ข้างหน้า มีความพลัดพรากรออยู่ข้างหน้า มีความตายรออยู่ข้างหน้า ฉะนั้นในโลกไม่มีชีวิตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าหรอก แต่ในทางธรรมมี ฝึกจิตของตัวเองไปเรื่อยๆ ด้วยสมถะด้วยวิปัสสนานี่ล่ะ เรามีความสุขมีความสงบตั้งแต่ปัจจุบัน อนาคตก็มีความสุขความสงบสูงขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงวันหนึ่งเรามีความสุขความสงบของพระนิพพาน นิพพานเป็นความสงบอย่างยิ่ง นิพพานมีสันติลักษณะ มันสงบ นิพพานมีความสุขอย่างยิ่ง นิพพานัง ปรมัง สุขัง นั่นล่ะ เรามีรางวัลใหญ่รอเราอยู่ข้างหน้าสำหรับชาวพุทธทั้งหลาย ฉะนั้นเราทำ ฝึกของเราทุกวันๆ อย่าทิ้งเวลาให้เปล่าประโยชน์ไป หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 27 พฤศจิกายน 2565

Direct download: 651127.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

งานหลักของเราต้องสู้กับตัณหาให้ได้ มันเป็นเจ้านายบังคับบงการจิตใจ จิตใจก็ไปบังคับร่างกายให้พูดชั่ว ให้ทำชั่ว ให้เลี้ยงชีวิตชั่วต่อไปอีก มันมาจากความคิดชั่ว กิเลส ตัณหาทั้งหลาย มันซ่อนอยู่ข้างหลัง พอเรารู้ทัน มันจะทำงานไม่สำเร็จ กิเลส ตัณหาอะไรที่มีอยู่จะค่อยๆ อ่อนกำลังลง กุศลก็จะค่อยเจริญขึ้นๆ สติก็จะดีขึ้น ศีล สมาธิ ปัญญา ก็จะดีขึ้น พอจิตเราตั้งมั่น มีสติรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง ทำให้มากเลย ต่อไปสัมมาวิมุตติมันก็จะเกิด หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 26 พฤศจิกายน 2565

Direct download: 651126.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

ถ้าเราเอาแต่ทำกรรมฐาน แล้วเราละทิ้งจิตของตนเอง มันจะก้าวมาไม่สู่จุดที่จิตมีสัมมาสติและสัมมาสมาธิเลย พยายามแทบตาย เหน็ดเหนื่อยแทบตาย แต่ก็ไม่ได้อะไรเท่าไรหรอก เพราะมันทำไม่ถูก ไม่ได้หัวใจของการปฏิบัติ สิ่งที่เป็นต่างหากล่ะ เพราะฉะนั้นทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่ง แล้วคอยรู้ทันจิตตนเองไปเนืองๆ รู้ไปเรื่อยๆ รู้สบายๆ ถนัดอะไรก็ทำอันนั้นล่ะ แต่ให้ความสำคัญกับการรู้ทันจิตใจตนเอง ภาวนาอย่าทิ้งจิต จิตเป็นใหญ่ เป็นหัวหน้า เป็นประธานของธรรมะทั้งปวง ได้จิตก็ได้ธรรม ไม่ได้จิตก็ไม่ได้ธรรมะ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 20 พฤศจิกายน 2565

Direct download: 651120.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

เราปฏิบัติที่จิต จนมารู้แจ้งในจิต แล้วก็ปล่อยวางที่จิต ฉะนั้นตัวจิตนั้นล่ะ เป็นกุญแจที่จะไขตู้พระไตรปิฎกให้เรา ตู้พระไตรปิฎกไม่ได้อยู่ที่ในตู้หรอก อันนั้นเป็นความจำ ไปอ่านเท่าไรก็ได้ความจำ แต่ธรรมะตัวจริงอยู่ที่จิตเรา ตู้พระไตรปิฎกที่แท้จริงอยู่ที่จิตของเราเอง หัดไขกุญแจเข้าไป กุญแจก็คือมีสติ มีสมาธิ รู้เท่าทันจิตใจของตนเองให้มากๆ ไว้ เบื้องต้นเราจะได้สติ แล้วก็จะได้สมาธิ แล้วก็จะได้ปัญญา สุดท้ายก็จะเกิดวิมุตติ นี้คือเส้นทางที่เราจะฝึก ถ้าเราตัดตรงเข้ามาที่จิตได้จะเร็วที่สุดเลย หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 19 พฤศจิกายน 2565

Direct download: 651119.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

พวกเราต้องหัดรู้สภาวะให้ได้ แล้วสภาวะที่เราต้องหัดรู้ คือสภาวะที่เรารู้ได้ เราเห็นได้ อะไรที่เราไม่รู้ไม่เห็น ไม่ต้องหรอก อย่างสภาวะของอากิจจัญญายตนะ แค่ชื่อมันก็จะตายแล้ว เราไม่เห็นหรอก เพราะเราไม่เคยมี เราไม่เคยเห็น หรือเนวสัญญานาสัญญายตนะ เราไม่เคยมี ไม่เคยเห็น ไม่ต้องไปดู เพราะมันไม่มีให้ดู ดูของที่มี มีโลภ มีโกรธ มีหลง ดูมันไป มีสุข มีทุกข์ ดูมันเข้าไป มีร่างกายหายใจออก ร่างกายหายใจเข้า มีร่างกายยืน เดิน นั่ง นอน นั้นล่ะ ดูมันเข้าไป ดูของที่มี จะใช้อะไรเป็นฐานก่อนก็ได้ ใช้กายเป็นฐานก็ได้ ใช้เวทนา คือดูสุขทุกข์ก็ได้ หรือใช้จิตที่เป็นกุศล อกุศล เป็นฐานก็ได้ ค่อยๆ ดูไป แล้วใช้จิตเป็นวิหารธรรม สิ่งที่เกิดกับจิตนั้นก็เวทนาเกิดร่วมกับจิต สัญญาเกิดร่วมกับจิต สังขารเกิดร่วมกับจิต แล้วก็จิตก็ทำงานทางอายตนะ ตรงที่เห็นจิตทำงานทางอายตนะ มันขึ้นสู่ธัมมานุปัสสนาแล้ว เราดูสิ่งที่เราดูได้ อันไหนเราทำไม่ได้ อย่าไปทำ ทำที่ทำได้ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 12 พฤศจิกายน 2565

Direct download: 651112.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 10:00am +07

หลักของการปฏิบัติ มีสติรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริงด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง รู้ไปเรื่อยๆ จิตหมดแรง กลับมาทำสมถะ ทำความสงบเข้ามา พอสงบแล้วซื่อบื้ออยู่เฉยๆ กระตุ้นมันให้มันตั้งมั่นมาทำงาน ไม่ใช่สงบเฉยๆ กระตุ้นมัน โดยการสังเกตความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของจิตเอา เรียกว่าจิตตสิกขา เราก็จะได้จิตที่ตั้งมั่น จิตตั้งมั่นแล้ว แยกรูปนาม เห็นกายกับจิตมันคนละอันกัน แยกนามต่อไปอีก แยกรูปต่อไปอีกก็ได้ รูปหายใจออกก็อันหนึ่ง รูปหายใจเข้าก็อันหนึ่ง รูปยืนก็อันหนึ่ง รูปเดิน รูปนั่ง รูปนอนก็เป็นคนละอันๆ ไป ส่วนนามเราก็แยกได้ เวทนา ความรู้สึกสุขทุกข์มันก็อันหนึ่ง จิตก็อันหนึ่ง สังขาร ความปรุงดีปรุงชั่วก็อันหนึ่ง จิตก็อันหนึ่ง นี่แยกๆๆ ออกไป ต่อไปจะเห็นสภาวธรรมทั้งปวงเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดดับเป็นธรรมดา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 13 พฤศจิกายน 2565

Direct download: 651113.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

หลวงพ่อช่วยเราได้แค่ให้สุตมยปัญญากับพวกเรา ปัญญาจากการฟังหรืออ่าน เป็นปัญญาเบื้องต้นเท่านั้นเอง ไม่มีใครเข้าใจธรรมะได้ด้วยการฟัง ด้วยการอ่านหรอก ปัญญาอีกตัวหนึ่งคือปัญญาจากการคิดพิจารณาไตร่ตรอง ความคิด คิดเรียกจินตามยปัญญา เป็นปัญญาจากการคิด ยังเชื่อถือไม่ได้เพราะจิตใจของเรามันมีกิเลสซ่อนอยู่ เวลาคิดมันก็คิดไปตามอำนาจกิเลส คิดเข้าข้างตัวเอง ฉะนั้นมันเชื่อถือไม่ได้หรอก สิ่งที่เราคิด ตัวที่จะทำให้เราเข้าใจธรรมะได้แท้จริง คือการลงมือภาวนา หรือลงมือปฏิบัติ เจริญสติเจริญปัญญา ถ้าเราภาวนา เบื้องต้นก็ฝึกให้ได้สติ เบื้องปลายก็ฝึกให้ได้ปัญญา กระบวนการในการฝึกฝน อยู่ในหลักธรรมคำสอนเรื่องสติปัฏฐาน สติปัฏฐาน 4 เป็นเรื่องใหญ่ พวกเราชาวพุทธต้องรู้จัก มันเป็นธรรมะที่อัศจรรย์มากจริงๆ พระพุทธเจ้าท่านรวบรวมหลักของการปฏิบัติที่สำคัญๆ ลงมาอยู่ในสูตรอันนี้ล่ะที่เราจะปฏิบัติกัน หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 6 พฤศจิกายน 2565

Direct download: 651106.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

เราจะภาวนา อย่าทิ้งอริยสัจ อย่าทิ้งการรู้ทุกข์ ดูลงไปขันธ์นั่นล่ะทุกข์ ถ้ารู้ทุกข์แจ่มแจ้งเมื่อไร มันจะละสมุทัย จะแจ้งพระนิพพานขึ้นมาเอง ไม่ต้องหา ไม่ต้องหาทำอย่างไรจิตเราจะถึงพระนิพพาน ทำอย่างไรจิตจะถึงพระนิพพาน เห็นไหมมันมีโลภเจตนาอยู่ ดูความจริงของมันเรื่อยๆ ไปจนจิตมันแจ้งขึ้นมา จิตนี้คือทุกข์ ทุกข์เพราะไม่เที่ยง ทุกข์เพราะถูกบีบคั้น ทุกข์เพราะเป็นความว่าง เป็นสุญญตา เป็นอนัตตา แล้วมันก็วางของมันเอง ไม่มีใครวางได้หรอก มันวางของมันเอง พอวางแล้ว พอเวลาเรานึกถึงพระพุทธเจ้า จิตกับพระพุทธเจ้ากลืนเป็นอันเดียวกันเลย จิตกับพระธรรมก็กลืนเป็นอันเดียวกัน จิตกับพระอรหันตสาวกทั้งหลาย ก็กลืนเป็นอันเดียวกัน หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 5 พฤศจิกายน 2565

Direct download: 651105.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

เราต้องฝึกให้ได้จิตรู้ขึ้นมา แล้วสันตติคือความสืบต่อของจิตจะขาด จิตจะไม่ได้มีดวงเดียวยาวๆ แล้ว แต่จะขาดเป็นช่วงๆ แล้วตรงนี้เราจะเห็นแต่ละช่วงไม่เที่ยง จิตรู้ไม่เที่ยง จิตหลงไม่เที่ยง ตรงที่จิตหลง จิตหลงไปดูก็ไม่เที่ยง จิตหลงไปฟังก็ไม่เที่ยง จิตหลงไปดมกลิ่น ไปลิ้มรส ไปรู้สัมผัสทางกายก็ไม่เที่ยง จิตหลงไปคิดก็ไม่เที่ยง จิตหลงไปเพ่งก็ไม่เที่ยง จิตมีความสุขก็ไม่เที่ยง จิตมีความทุกข์ก็ไม่เที่ยง จิตเฉยๆ ก็ไม่เที่ยง เราจะเห็นทุกดวงมันไม่เที่ยงๆ ไป ตรงนั้นล่ะที่เรียกว่าเราเห็นเกิดดับ ถ้าสันตติไม่ขาดไม่เห็นเกิดดับหรอก สันตติจะขาดได้ จิตต้องตั้งมั่น ต้องได้ผู้รู้ขึ้นมาก่อนสันตติถึงจะขาด หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 30 ตุลาคม 2565

Direct download: 651030.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07

Direct download: 650821_VQ_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 650820_QT_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 650820_VT2_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

Direct download: 650820_VT1_.mp3
Category:short clips -- posted at: 6:00pm +07

1 « Previous 17 18 19 20 21 22 23 Next » 97