พวกเราไม่มีพระพุทธเจ้ามาเร่งเร้าเราแล้ว ก็ต้องฝึกตัวเอง กระตุ้นตัวเอง คนที่อินทรีย์แก่กล้า มันกระตุ้นตัวเองได้ พวกอินทรีย์อ่อนๆ พอห่างครูบาอาจารย์ไปแล้วใจก็ฝ่อ ขี้เกียจปฏิบัติ ไปเพลินๆ อยู่กับโลก ฉะนั้นนักปฏิบัติจำนวนมาก ก็จะมีเพื่อน เป็นเพื่อนที่ปฏิบัติด้วยกัน เรียกโก้ๆ ว่ามีกัลยาณมิตร อย่างเวลาเราภาวนา เรามีเพื่อนไปหาครูบาอาจารย์ด้วยกัน ไปฟังด้วยกัน แล้วก็มาลงมือปฏิบัติ เวลาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งท้อแท้ใจ อีกฝ่ายหนึ่งก็กระตุ้นเร่งเร้า มันท้อได้ไม่นาน ถ้าเรามีเพื่อนร่วมทางที่ดี แต่ถ้าเพื่อนร่วมทางไม่ดี อย่ามีดีกว่า ไปคนเดียวดีกว่า พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่า ถ้าเราไม่มีเพื่อนร่วมทางที่ดีกว่าเรา หรือเสมอกับเรา ไปคนเดียวดีกว่า พวกไม่เอาไหนมันถ่วงเรา ทำให้เราขี้เกียจปฏิบัติ หรือท้อใจที่จะปฏิบัติ การมีเพื่อนร่วมทางที่ดี มันหนุน มันเสริมซึ่งกันและกัน เวลาคนหนึ่งขี้เกียจ อีกคนหนึ่งขยันอยู่ กระตุ้นกัน โอ๊ย เราจะขี้เกียจได้อย่างไร เพื่อนเราเขายังภาวนาเข้มแข็งอยู่เลย แล้วเราจะมาขี้เกียจอยู่ ไม่ได้เรื่อง การจะหาเพื่อนร่วมทาง ก็ต้องเลือกให้ดี หลักก็คือหาคนที่ดีกว่าเรา มีศีล มีธรรม หรือเสมอกันอย่างต่ำ ฉะนั้นเพื่อนสำคัญในชีวิตเรา คู่ชีวิตเรา แต่ละคนก็มี มีสามี มีภรรยา ถ้า เราได้สามี ได้ภรรยาที่เสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีทิฏฐิ ความคิดความเห็นเสมอกัน ดีด้วยกัน ก็พากันไป ก้าวหน้ากันไป อันนั้นเรียกว่าเรามีเพื่อนร่วมทางที่ดี หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม 1 เมษายน 2566

Direct download: 660401.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07