Sat, 23 September 2017
"เรารู้นะ ว่าเราภาวนา เราจะพ้นโลก โลกนี้ไม่ได้มีความสุข โลกนี้มันสุข สำหรับคนหลง คนมีสติ มีปัญญา ได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า แล้วมาสังเกตกาย สังเกตใจ ของเรา จะรู้ว่า เมื่อไรมีกาย ก็มีทุกข์ เมื่อไรมีใจ ก็ยังมีทุกข์อยู่ มีอะไร ก็มีทุกข์เพราะอันนั้น ไม่ว่าเราอยู่ในโลกไหน เราก็มีกายมีใจนี้อยู่ เพราะฉะนั้นความทุกข์ ก็ยังตามเราไป" --พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๐ |
Thu, 21 September 2017
"วิธีปฏิบัติ ไม่ใช่เรื่องยากนะ มีสติรู้สึกกาย รู้สึกใจ ให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ในแต่ละวัน อย่าละเลย อย่าขี้เกียจ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง ปัญหาใหญ่ของนักปฏิบัติ อยู่ที่ไม่ปฏิบัติ ไม่ใช่ปฏิบัติแล้วทำไม่ได้ หรือทำยากเกินไป" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๐ |
Tue, 19 September 2017
“เวลาฟังธรรมเป็นเวลาสำคัญนะ ไม่ใช่เวลาเล่นๆ เวลาที่ตั้งใจฟัง กระแสของธรรม มันเป็นพลังงานที่ละเอียด ที่ปราณีต ถ่ายทอดผ่านใจของครูบาอาจารย์ ไปสู่พวกเรา ใจของเรา สงบ สันติ ฟังธรรมะไปด้วยจิตใจที่รู้ตื่น เบิกบาน กระแสธรรมมันจูนเข้ามาในใจเรา ใจเราจะรับธรรมได้ แต่ถ้าใจเรา มันวอกแวกๆ นะ มันรับธรรมะไม่ได้ มันไม่เหมือนฟังเลคเชอร์ ฟังเลคเชอร์นะ จดๆๆ ไปเรื่อยๆ เอาไปดูทีหลังก็ยังได้ แต่ในขณะที่ฟังธรรมะของครูบาอาจารย์ คือ ”นาทีทองของการปฏิบัติ” -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๐ |
Sun, 17 September 2017
"พวกเรารู้สึกไหม เรามีขอบเขต มีกำแพงของตัวเองอยู่ รู้สึกไหม ใครล่วงล้ำกำแพงนี้ เอาตายเลย ทนไม่ได้ อย่างบางคนเดินเข้าใกล้เราเนี่ย กำแพงของมันมาชนกำแพงกับเรา เราไม่ชอบแล้วหละ บางคนเข้าใกล้เรา เราอึดอัด รู้สึกไหม แต่ถ้าคนที่เราชอบ เราอยากลากเข้ามาอยู่ในกำแพงของเรา นึกออกไหม แล้วไม่ยอมให้มันไปไหนแล้ว ขังมันไว้อยู่ในเนี้ย เรามีกำแพงอันนึงสร้างขึ้นมา แล้วมันจะรู้สึกว่า นี่ นี่ อันนี้ของเรานะ อันนี้ไม่ใช่ของเรานะ มันเทียบกันขึ้นมา เลยเกิดว่า เรากับเขา เราดีกว่าเขา เขาดีกว่าเรา เรากับเขาเท่าๆ กัน นี่เป็นปรากฎการณ์ ที่เกิดขึ้น หลังจากที่เราขีดวงกำแพงนี้แล้ว เพราะฉะนั้น อย่างพระอนาคามียังมีวงกำแพงนี้อยู่ พระอนาคามี จะรู้สึกว่า จิตยังมีขอบเขตอยู่ จิตของเราก็มีขอบเขต มีกำแพงขังจิตอยู่ แต่พระอรหันต์ ไม่มีกำแพงอันนี้แล้ว เพราะฉะนั้น จิตพระอรหันต์ไม่มีขอบเขต มานะก็ไม่มี เพราะไม่มีกำแพงอันนี้ซะแล้ว" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๐ |
Fri, 15 September 2017
"เราเรียนรู้ความจริงของกาย เรียนรู้ความจริงของจิตใจมากๆ เราจะเข้าใจร่างกายจริงๆ เป็นทุกข์ มีความทุกข์บีบคั้นตลอดเวลา ร่างกายจริงๆ เป็นวัตถุที่เรายืมโลกมาใช้ชั่วคราว วันหนึ่งเราต้องคืนเขาไป จิตใจนี้ก็เหมือนกัน เป็นของไม่เที่ยงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จิตใจนี้เป็นของบังคับไม่ได้ เลือกไม่ได้ สั่งไม่ได้ เห็นอย่างนี้ใจมันจะคลายความยึดถือออกไป แล้วมันจะไม่หิว ใจที่มันฉลาดขึ้นมามันจะไม่หิว" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Wed, 13 September 2017
"ความสุขในใจเราก็ชั่วคราว ความทุกข์ก็ชั่วคราว ความรัก ความชัง ก็เป็นของชั่วคราว เวลา ความรู้สึก รักใครขึ้นมา เรารู้ทันนะ ใจมันคลายออก มันเหลือแต่เมตตา ไม่เป็นรักนะ เขาจะไปที่ไหน เราไม่หวั่นไหว ไม่กังวล ใจก็ไม่ทุกข์เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ไม่ทุกข์ เพราะเจอสิ่งที่ไม่รัก เพราะสิ่งที่ไม่รักเนี่ย ใจเป็นคนไม่รัก ใจมีโทสะ เราเห็นโทสะเกิดดับ แล้วโทสะไม่มีสาระ ใจเป็นกลาง ไม่มีโทสะ ฉะนั้นเจออะไร มันก็ไม่เกลียด อยู่ที่ฝึกนะ ถ้าใจยอมรับความจริงได้ว่า สุข ทุกข์ ดี ชั่ว เป็นของชั่วคราว ความทุกข์ทางใจมันก็ไม่มี" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แผ่นที่ ๗๒ วัดสวนสันติธรรม วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 11 September 2017
“ธรรมะสำหรับแต่ละคน มีช่วงจังหวะเวลา ว่าใจเราจะเข้าใจตอนไหน เราไม่รู้ว่าใจเราจะเข้าใจได้ตอนไหน เราก็ปฏิบัติของเราตลอดเวลา ปฏิบัติให้มากที่สุด เกิดจังหวะนั้นมันคลิ๊กขึ้นมา มันเข้าใจขึ้นมา เอาตัวรอดไปได้ ปิดอบายได้ แต่ธรรมะเพื่อความพ้นทุกข์ ที่เราจะใช้ยืนพื้นสำหรับคนๆ นึงนะ ไม่มากหรอก อย่างเราคอยรู้ ความสุข ความทุกข์ ความเฉยๆ ที่เกิดในใจเรา รู้มันทั้งวัน รู้มันทุกวัน รู้แค่นี้ก็พอ เดี๋ยวมันสอนธรรมะเราเอง ความสุข ความทุกข์ ความเฉยๆ อะไร ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา เราสั่งมันไม่ได้ มันเป็นไปตามเหตุ" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Sun, 10 September 2017
“เราคอยรู้ทุกสิ่งที่อย่าง ในร่างกาย ในจิตใจของเรา การปฏิบัติธรรม ไม่มีมากกว่านี้หรอก รู้สึกจิตใจได้ ก็รู้สึกจิตใจไป รู้สึกจิตใจไม่ได้ รู้สึกร่างกาย รู้สึกร่างกายก็ไม่ชัด ยุ่งไปหมดแล้ว ทำความสงบ ทางที่ดี ทุกวัน แบ่งเวลาทำความสงบไว้บ้าง เหมือนเราชาร์จแบตเตอร์รี่โทรศัพท์เรา ไม่ต้องรอให้แบตหมดก่อน แล้วค่อยไปชาร์จ มันจะชาร์จนาน เราใช้ไป เราก็ชาร์จเป็นระยะๆ ไป” -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Fri, 8 September 2017
“เรียนกรรมฐานนะ ฝึกสติให้มาก ต้องเอาไปใช้ในชีวิตจริงๆ ให้ได้ ถ้าเรียนกรรมฐานแล้ว เก่งเฉพาะตอนเข้าวัด หรือตอนไปไหว้พระสวดมนต์ ฝีมือยังอ่อนเกินไป เราต้องหลอมรวมการปฏิบัติ เข้ามาอยู่ในชีวิตจริงๆ ให้ได้ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน อะไรอย่างนี้ มีสติกำกับตลอดเวลา ในแต่ละวัน ถ้าช่วงไหน เราไม่ได้ทำงานที่ต้องใช้ความคิด แล้วก็ไม่ได้นอนหลับ มียกเว้นให้ 2 อย่าง คือตอนที่ทำงานที่ต้องคิด กับตอนที่หลับ ตอนนั้นจะเป็นเวลาซึ่งปฏิบัติไม่ได้ เวลาที่เหลือเนี่ย ปฏิบัติได้ทั้งหมดเลย” -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Wed, 6 September 2017
"ไม่ต้องห่วงว่า มรรคผลจะเกิดเมื่อไหร่ มีหน้าที่เจริญสติปัฏฐานไป ด้วยจิตใจที่ถูกต้อง จิตใจมีสมาธิถูกต้อง คือจิตใจรู้เนื้อรู้ตัว เป็นธรรมชาติ ธรรมดานี่เอง" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 4 September 2017
"ปัญญาทางโลก กับ ปัญญาทางธรรม ไม่เหมือนกัน ปัญญาทางโลก ความฉลาดรอบรู้อะไรพวกนี้ ไม่ได้ทำให้เราพ้นทุกข์ มันช่วยให้เราอยู่ในโลกได้สบายหน่อยเท่านั้น บางคนฉลาดไป แล้วไม่มีศีล ไม่มีธรรม ก็ไม่ค่อยมีความสุขจริง ปัญญาทางธรรม ถ้าเรียนแล้วใจเรามีความมั่นคง ยิ่งฝึกไปเรื่อยๆ ชีวิตจิตใจเรามันเต็มอิ่มอยู่ในตัวเอง มันมีความสุข จะจนหรือจะรวยก็มีความสุข จะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต เราก็ยังมีความสุขอยู่ได้" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Sun, 3 September 2017
"พร้อมหรือยัง ต้องฝึกให้ชำนาญนะ อย่างเรากำลังหลงๆ อยู่อย่างนี้ ต้องรู้สึกตัวให้ได้ เต็มที่เลย ในเวลาไม่เกิน 3 วินาที ประมาณนั้นนะ ฝึก อย่างใจหลงไป บางทีเรารู้ แล้วมันยังคลุกอยู่กับอารมณ์ ไม่ยอมแยก ต้องฝึกให้มันถอยออกมา แยกขันธ์ออกมาให้ได้นะ หลวงพ่อฝึกตั้งแต่เป็นโยม 3-5 วินาที ประมาณนี้" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Fri, 1 September 2017
"ความสงสัย มันจะหลอก ให้เราคิด ไปเรื่อยๆ ให้เราถาม ไปเรื่อยๆ ได้คำตอบมา เราก็ไปคิดต่อ คิดต่อ ก็ไปถามต่ออีก ชีวิตวนเวียนอยู่กับการคิด กับการถาม ซึ่งหาประโยชน์อะไรไม่ได้ เรียนรู้ความจริงของกายของใจไป ถึงจะได้ประโยชน์ จะได้ตั้งแต่เบื้องต้น ไปจนเป็นโสดา สกทาคา อนาคา เป็นพระอรหันต์ พ้นทุกข์ไป ก็รู้แจ่มแจ้งว่าเป็นยังไง" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Wed, 30 August 2017
"การที่เราได้เห็นโลกตามความเป็นจริง มองโลกตามความเป็นจริงเรื่อยๆ ไป จนใจยอมรับตามความเป็นจริงของโลก นั่นแหละ ใจเราเข้าถึงสัจจะ เข้าถึงความจริงแล้ว อะไรเกิดขึ้น เราจะไม่ทุกข์ เป้าหมายสูงสุดของศาสนาพุทธ คือ ความไม่ทุกข์ ไม่ทุกข์ได้ เพราะปัญญาเข้าใจความเป็นจริงของโลก ของชีวิต" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 28 August 2017
"การปฏิบัติธรรม มี ๒ ส่วน ส่วนหนึ่ง คือ การทำในรูปแบบ ส่วนหนึ่ง คือ การปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวัน ตัวที่สำคัญมาก คือ การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน ถ้าเราทำตรงนี้ไม่ได้นะ โอกาสที่จะบรรลุมรรคผลในชีวิตนี้แสนไกล ยากเย็น เพราะอะไร เพราะชีวิตเราส่วนใหญ่อยู่ปกติอย่างนี้" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Sun, 27 August 2017
"การปฏิบัติเนี่ย ไม่ใช่ห้ามดู ห้ามฟัง ห้ามคิดนะ มีตา ก็ดู มีหู ก็ฟัง มีใจ ก็คิด แต่พอกระทบไปแล้ว มีสุข ให้รู้ มีทุกข์ ให้รู้ เกิดกุศล ให้รู้ โลภ โกรธ หลง ให้รู้ อย่างนั้น เราจะเห็นว่า มันเปลี่ยนแปลงตลอด จิตใจนี้ ไม่คงที่ อย่างนั้นเรียกว่า การเจริญปัญญา” -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Fri, 25 August 2017
“ถ้าใจผิดดวงเดียวนะ ทำกรรมฐานอะไรก็ผิดหมดเลย ถ้าใจถูก ทำกรรมฐานถึงจะถูก จำไว้นะ ตอนเด็กๆ เราได้ใจธรรมดา แต่ขาดสติเท่านั้น อย่างเด็กมีใจธรรมดา กระทบอารมณ์ เกิดสุขบ้าง เกิดทุกข์บ้าง ดีใจบ้าง เสียใจบ้าง อันนี้ใจธรรมดา ใจผิดธรรมดา นี้ใจนักปฏิบัติ ทำขรึม คนด่าก็เฉย คนชมก็เฉย สัมผัสอารมณ์ที่ดีก็เฉย สัมผัสอารมณ์ที่ร้ายก็เฉย อะไรก็เฉยหมดเลย นิ่งไว้อยู่อย่างงั้น เครียดอยู่อย่างงั้น นี่จิตผิดธรรมดา พอเราเสียจิตที่ธรรมดาไปแล้วนะ เราเสียเครื่องมือสำคัญในการทำกรรมฐานไป” -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Wed, 23 August 2017
"อยู่กับธรรมชาติ ถ้าเรามีโอกาสอยู่ ดี แต่ถ้าเราไม่มีโอกาส อยู่ที่ไหน เราก็ต้องปฏิบัติให้ได้ อยู่ที่บ้าน ก็ต้องปฏิบัติให้ได้ หลวงพ่อไม่มีข้อแม้ ว่าต้องไปอยู่วัดป่า หลวงพ่อถึงจะภาวนา หลวงพ่อภาวนาอยู่ที่บ้าน เพราะว่าชีวิตส่วนใหญ่เราอยู่ที่บ้าน แล้วก็อีก 2-3 ชั่วโมงในแต่ละวัน อยู่บนถนน อยู่บนถนน ยังไม่ได้ทำงานอะไร ตรงนี้เป็นเวลาภาวนาได้ สบายมากเลย" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 21 August 2017
"มีสติ มีสมาธิ แล้วปัญญาจะเกิด สติรู้สภาวะ สมาธิ คือความตั้งมั่นของจิต เป็นแค่ผู้รู้ ผู้ดู ผู้เห็น จิตเป็นแค่ผู้เห็น ศัพท์ที่ถูกต้องไม่ใช่ “ดู" ศัพท์ที่ถูกต้อง คือ “เห็น" ดูกับเห็น ดีกรีไม่เท่ากัน ดูเนี่ย ยังจงใจดูได้ หลับตาอยู่ ลืมตาขึ้นมา ไม่ได้เจตนา มันเห็น เวลาทำวิปัสสนา ศัพท์ที่ถูกต้อง คือ “เห็น" แต่พวกเราติดคำว่า “ดู" เพราะว่าครูบาอาจารย์รุ่นก่อนท่านใช้คำว่า ดู ดูกาย ดูใจ เราไม่ชินกับคำว่า “เห็น” พอ “ดู” เราก็เจตนาดู แล้วก็ถลำลงไปดู ไม่ใช่ วิปัสสนา คือ การเห็น ปัสสนา แปลว่า เห็น วิ แปลว่าแจ้ง เห็นแจ้งคือ เห็นไตรลักษณ์ เห็นความจริง ก็คือไตรลักษณ์นั่นเอง" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
Sat, 19 August 2017
“เวลาทำในรูปแบบ อายตนะที่เด่นคือกายกับใจ แต่เวลาอยู่ในชีวิตจริง อายตนะทั้ง 6 จะทำงาน อายตนะทั้ง 6 ทำงานแล้วเนี่ย ไม่ใช่ดูง่าย มีตั้ง 6 ช่อง ดูที่ใจอันเดียว ถึงจะทำง่าย ตาเห็นรูป ใจเป็นสุข ใจเป็นทุกข์ ใจดี ใจร้าย มีสติรู้ หูได้ยินเสียง เกิดสุข เกิดทุกข์ เกิดดี เกิดชั่วขึ้นที่จิตใจ มีสติรู้ จมูกได้กลิ่น เกิดสุข เกิดทุกข์ เกิดดี เกิดชั่วที่ใจ มีสติรู้ ใจไปคิด เกิดสุข เกิดทุกข์ เกิดดี เกิดชั่วที่ใจ มีสติรู้ นี่คือการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ใช้อายตนะทั้ง 6 ทำงาน แต่ไม่ใช่ไปเที่ยวดูทีละอายตนะ ดูทีละอายตนะ ดูไม่ทันหรอก” -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐ |
Thu, 17 August 2017
“ที่จริงการปฏิบัตินะ ถ้ารู้หลักแล้ว ขยัน ไม่ยากหรอก รู้หลัก ลงมือทำให้ถูก ทำถูกแล้วก็ทำให้พอ นานๆ ทำที ก็ไม่ดีขึ้น หลายปีก็ไม่ดี เพราะกิเลสมันลากเราไป แต่ละวันๆ นะ กิเลสลากไปเยอะ เจริญสติขึ้นมาได้นิดๆ หน่อยๆ สู้กันไม่ไหว แต่อันแรกสุดก็หลักการปฏิบัติต้องแม่น การปฏิบัติธรรมจริงๆ มีเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา” -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐ |
Wed, 16 August 2017
"ไม่แน่ วันหนึ่งพวกเราอาจต้องกลับไปเรียน ไปขอธรรมะจากเมืองจีน เมืองลาว เมืองฝรั่ง หลายประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ พวกนี้เขามาเรียน เวลาที่เราจะไปเรียนเอาคืนมา ไม่ใช่งานเรื่องง่าย อันแรกเลย ภาษา อย่างลาวกับไทยพูดกันรู้เรื่องไม่มีปัญหา อย่างถ้าจะต้องไปเรียนธรรมะคืนมาจากเมืองจีนเนี่ย ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลวงพ่อรู้ภาษาจีนคำเดียว "เจี๊ย" ก็มีอีกวิธีที่ง่ายกว่านั้น คือ ตั้งใจภาวนา รักษาธรรมะเอาไว้ อย่าให้มันหายไปจากเมืองไทย คนรุ่นหลังอยากเรียน เขาจะได้ไม่ลำบากมาก" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 14 August 2017
"การที่เราไปติดอกติดใจ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มันทำให้เราเสียอิสระภาพ อย่างเราติดในรูป ต้องเห็นรูป ต้องเห็นคนๆ นี้ เราก็ต้องเสียอิสระภาพไปบางส่วน ต้องเอาใจเขา อะไรอย่างนี้ เราชอบในเสียงอย่างนี้ ในกลิ่นอย่างนี้ ในรสอย่างนี้ เราต้องแสวงหา ได้มาก็ต้องรักษาไว้ เป็นภาระทางใจ" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๐ |
Sat, 12 August 2017
"รู้ทันใจของเรา วิเศษที่สุดเลย เวลาเราพูดอะไร เราแสดงความเห็นอะไร มันดราม่ารึเปล่า ศัพท์ตัวนี้เข้าท่าอยู่นะ มันแกล้งเป็นคนดี รู้สึกไหม ที่แท้มันตอแหล มันแกล้งทำเป็นพูดดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ เนี่ยดูตัวเองนะ ไม่ได้ให้ไปดูคนอื่นนะ ไปดูคนอื่นตอแหล ไม่ต้องดูมาก ดูนักการเมือง มีให้ดูเยอะเลย วางใจให้เป็นกุศลไว้ ในทุกๆ สถานการณ์ เห็นใครเขาทำดีอะไรนะ ก็อนุโมทนา ไม่ต้องโฆษณาก็ได้ ไม่ต้องแชร์มาลงเฟซบุ๊คของเรา เพื่อให้สังคมเห็นว่าเรามีมาตรฐานนะ ใครดี เราเชียร์หมดเลย เนี่ย แอบซ่อนหน้าอันใหญ่ไว้ข้างหลัง บางที กิเลสเนี่ยไม่ไว้หน้าใครนะ ต้องระวัง รู้ทันมันไป" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ |
Thu, 10 August 2017
"จิตของเราเนี่ย อยู่ในสิ่งห่อหุ้มบางอย่าง เหมือนถูกขังอยู่ พวกเราเคยเห็นไหม จิตมีเปลือกหุ้มอยู่ จิตอยู่ในที่คับแคบ ไม่คล่องตัว ไม่มีอิสระ เหมือนปลา ก็เป็นปลาตู้ ไม่ใช่ปลาแม่นำ้ ไม่ใช่ปลาในคลอง ไม่ใช่ปลาทะเล เป็นปลาอยู่ในตู้แคบๆ เนี่ย มันเห็นจิตถูกขังอยู่ ทนไม่ได้นะ ว่านี่มันติดคุกอยู่ คล้ายๆ ว่า เราเกิดมาในคุก เราไม่รู้ว่าเราติดคุก วันหนึ่ง ครูบาอาจารย์พาเราภาวนา เราเห็นแล้ว ว่าเราติดคุกอยู่ เรื่องอะไร ต้องติดคุกอยู่อีก 7 ชาติ ใจจะไม่ยอม ฉะนั้น การภาวนาของหลวงพ่อนะ ครูบาอาจารย์ไม่ต้องเตือน ท่านสอนอะไรเนี่ย ทำไม่เลิก" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ |