Sat, 18 November 2017
“ข้อ 1 ของการดูจิตนะ อย่าดักดู ให้สภาวะเกิด แล้วค่อยรู้เอา ข้อ 2 ระหว่างที่รู้ อย่ากระโจนลงไปรู้ ดูห่างๆ ดูแบบไม่มีส่วนได้เสีย ข้อ 3 ดูแล้ว แต่ใจต้องเป็นกลาง ปกติพอเรารู้สภาวะอันใดอันหนึ่ง จิตจะไม่เป็นกลางหรอก โดยธรรมชาติ มันจะยินดีบ้าง ยินร้ายบ้าง อย่างความสุขเกิด หรือกุศลเกิด จิตเรายินดีพอใจ กิเลสเกิด หรือความทุกข์เกิด จิตเราไม่พอใจ ให้รู้ทันจิตที่พอใจ จิตที่ไม่พอใจด้วย ถ้าเกิดความยินดีพอใจ ความไม่ยินดี ไม่พอใจเกิดขึ้น ให้มีสติรู้ลงไปอีกทีหนึ่ง” -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Thu, 16 November 2017
"จิตเกิดแล้วจิตวิ่งไปวิ่งมาไหม จิตไม่วิ่งไปวิ่งมา จิตเกิดตรงไหน จิตก็ดับตรงนั้นแหละ เพราะฉะนั้น จิตที่ดู กับจิตที่ฟัง เป็นจิตคนละดวงกัน จิตที่คิด ก็เป็นอีกดวงหนึ่ง คนละแบบกัน ทั้งหมดเกิดแล้วดับทั้งสิ้นเลย จิตเกิดที่ตาก็ดับ เกิดที่หูเกิดแล้วก็ดับ เกิดที่จมูก ที่ลิ้น ที่กาย ที่ใจ เกิดแล้วดับทั้งสิ้น จิตไม่ได้มีดวงเดียว แล้วก็เที่ยววิ่งไปวิ่งมา" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 13 November 2017
"เดินจงกรมทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้เรียกว่า มีความเพียรนะ ถ้าเดินไปด้วยใจโลภ อยากดี ไม่ได้ละอกุศล อย่างเรานอนอยู่นะ นอนอยู่ ถ้าเราเห็นกิเลส เห็นอะไรของเรานะ เรามีสติรู้ลงไป กิเลสดับลงไป นั่นเราทำความเพียรอยู่ ทั้งๆ ที่นอนอยู่ หลวงปู่มั่น พูดชัดเลยบอกว่า เมื่อไรมีสติ เมื่อนั้นมีความเพียร เมื่อไรขาดสติ เมื่อนั้นขาดความเพียร ความเพียร ไม่ใช่นั่งสมาธิหามรุ่งหามค่ำ เดิมหามรุ่งหามค่ำ แต่คือการที่เรามีสติรู้ทัน รักษาใจของเราจากอกุศล นั้นเอง -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Thu, 9 November 2017
"หน้าที่เรา มีสติ เรียนรู้ความจริงของรูปนาม กายใจซ้ำแล้วซ้ำอีก นี่คือทางรอดนะ นี่คือทางเดียว ที่จะรอด ทางอื่นไม่ช่วยให้เรารอด อย่างไปนั่งสมาธิ ก็ไม่รอด นั่งสมาธิ จิตสงบไป มีความสุขอยู่ช่วงกำลังของสมาธิ พอสมาธิเสื่อม ก็ทุกข์ใหม่ จิตใจวุ่นวายขึ้นมาใหม่" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 6 November 2017
"ร่างกายก็ต้องเปลี่ยนอิริยาบถ อิริยาบถปิดบังไม่ให้เราเห็นทุกข์ มีสติ ระลึกรู้ไป ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์ ก่อนจะเปลี่ยนอิริยาบถ เห็นทุกข์ซะก่อน แล้วค่อยเปลี่ยน เรียนรู้ความจริงสักหน่อย ไหนๆ ก็เห็นทุกข์แล้ว เอามาให้เกิดปัญญาสักหน่อย เอาความทุกข์เป็นหินลับมีดนะ ให้สติปัญญามันแหลมคมขึ้นมา” -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Fri, 3 November 2017
"พวกเรามีภารกิจสำคัญนะ แต่ละคนสู้กับกิเลสของตัวเอง แล้วก็ส่งทอดธรรมะออกไปให้คนรุ่นต่อไปให้ได้ อย่างนี้คือหน้าที่ของชาวพุทธ ทำประโยชน์ตนเอง ทำประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาท ไม่ประมาท คือ ทำด้วยสติด้วยปัญญาจริงๆ อย่างอยากเผยแพร่ แต่เพื่อความดังอย่างนี้ ไม่ใช่ชาวพุทธ แต่อยากเผยแพร่ธรรมะ ด้วยความเมตตากรุณา อย่างนี้เป็นชาวพุทธ" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Wed, 1 November 2017
"ถ้าใจเรารู้จักเมตตา เวลาเราทำสมาธิจะเร็ว จะสงบเร็ว เพราะเมตตาเป็นกระแสที่ร่มเย็น ฝึกใจเรานะ มองคนอื่น มองสัตว์อื่น มองสิ่งแวดล้อม ด้วยความรู้สึกเป็นมิตร ใจเราจะร่มเย็น ไม่เฉพาะคนอื่นสัตว์อื่นนะ สิ่งที่แวดล้อมเราอยู่ด้วย" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 30 October 2017
"ในความเป็นจริง ทุกคนรู้กายรู้ใจได้ แต่ไม่รู้ว่าอันนี้เป็นของสำคัญ ก็เลยละเลย ไม่สนใจ ถ้ารู้ก็รู้ได้ทุกคน อย่างร่างกายของเรา หายใจออกหรือหายใจเข้า อย่างนี้ มันยากไหมที่จะรู้ ต้องวางฟอร์มไหม ทำจิตขรึมๆก่อน แล้วถึงจะรู้ว่าหายใจออกหรือหายใจเข้า ไม่จำเป็นเลย ร่างกายจะยืนเดินนั่งนอน เราต้องทำจิตให้แปลกๆ ไหมถึงจะรู้ เรารู้ด้วยจิตใจที่ธรรมดาที่สุดเลย รู้ไปด้วยจิตใจที่ธรรมดาๆ ร่างกายหายใจออกรู้สึก หายใจเข้ารู้สึก เห็นเหมือนเห็นคนอื่นหายใจนะ" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Sat, 28 October 2017
"ในใจเรา จะมีสุข มีทุกข์ มีเฉยๆ หมุนเวียนอยู่อย่างนี้ทั้งวัน ไม่อันใดก็อันหนึ่ง เราหัดสังเกตนะ ใจเราสุข เราก็รู้ ใจเราทุกข์ เราก็รู้ ใจเราเฉยๆ ก็รู้ ถ้าใจเป็นยังไงก็ไม่รู้ ก็คือไม่ได้ปฏิบัติ ถ้าเรารู้อยู่ว่า ความรู้สึกของเราเป็นยังไง เราปฏิบัติอยู่แล้วเราจะพบว่า ความสุข ความทุกข์ ความเฉยๆ เกิดเอง ดับเอง สั่งไม่ได้ เลือกไม่ได้ บังคับไม่ได้ ไม่ใช่ตัวเราหรอก" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Wed, 25 October 2017
"ลมหายใจของเรานี่แหละ เป็นวัตถุมงคลที่วิเศษที่สุดเลยนะ ลองหายใจสิ รับรองไม่ตาย หยุดเมื่อไหร่ ไม่มีมงคลแล้ว อัปมงคลแล้ว เข้าโลง ถ้าเราสามารถเจริญสตินะ หายใจออก รู้สึกตัว หายใจเข้า รู้สึกตัว ลมหายใจนั้นเป็นมงคลสำหรับเราแล้ว เรามีสติ มีสมาธิ ต่อไปก็เกิดปัญญา เห็นความจริง ร่างกายที่หายใจอยู่ ไม่ใช่ตัวเรา วัตถุมงคลอื่นๆ ทำให้หนังเหนียว อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม อะไรต่ออะไร สู้เราไม่ได้หรอก เราหายใจไปเรื่อย จิตใจเราสงบ มีความสุข จิตใจที่สงบ จิตใจที่มีความสุข มันมีเสน่ห์อยู่ในตัวเอง" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Mon, 23 October 2017
"เมื่อไรรู้สึกตัวอยู่ เมื่อนั้นคือเวลาปฎิบัติธรรมนะ เพราะงั้นเราขาดสติไม่ได้เลย ต้องพยามมีสติอยู่ทั้งวัน มีสติอยู่ตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้ว่า เมื่อไรจิตเราจะพร้อมสำหรับการบรรลุธรรม" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Sat, 21 October 2017
"คอยสังเกตตัวเอง อะไรที่ทำแล้วกุศลเจริญ ทำอันนั้นแหละ อะไรที่ทำแล้วกิเลสเจริญ ก็อย่าไปทำ กุศลเจริญหรือกิเลสเจริญ อยู่ที่ไหน อยู่ที่จิตนั่นเอง ฉะนั้น การมีสติคุ้มครองรักษาจิต ตามรู้ตามดูจิตอยู่ วิเศษที่สุดแล้ว" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Thu, 19 October 2017
"ต้องไม่เปิดช่องให้กิเลสมีอำนาจเหนือเรา กุศลเราก็เจริญไปเรื่อยๆ อย่างเราตั้งใจเดินจงกรม อย่าไปตั้งใจเดินจรงกรมว่า หนึ่งพรรษา ออกพรรษา แล้วเลิก อะไรที่ดีๆ ตั้งใจมันทั้งชาติเลย อย่างหลวงพ่อสอนพระ สอนปฎิบัติทั้งชีวิต อย่าคิดว่าปฏิบัติถึงเมื่อไหร่ ลงมือปฏิบัติไปทั้งชีวิตเลย เพราะการปฏิบัติเป็นเรื่องดี ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลย ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งดี ยิ่งมีความสุข ทำไมจะต้องมา limit ตัวเองในความดี พระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญความดีที่หยุดนิ่งนะ อย่างอะไรที่ดี ทำมันทั้งชีวิตเลย ค่อยๆ ฝึกตัวเองไป ใจมันจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ นะ กิเลสมันก็จะอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ สติ สมาธิ ปัญญา จะดีขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ ฝึกตัวเองไปทุกวัน ทุกวัน อย่าท้อถอย บางทีใจท้อแท้นะ ท้อแท้ก็ไม่เลิกปฏิบัติ อย่างเราตั้งใจไว้ ทุกวันเราจะเดินจงกรม ถึงเวลาเราก็ต้องเดิน" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๓ วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Tue, 17 October 2017
"ใช้ใจที่ธรรมดาที่สุดนะ ไปรู้อารมณ์สบายๆ แป๊บเดียวก็สงบ เคล็ดลับอยู่ตรงนี้นะ เพราะฉะนั้นแต่ละวันแบ่งเวลา ทำในรูปแบบ ทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่ง พุทโธก็ได้ หายใจก็ได้ หายใจไปพุทโธไปก็ได้ อันนี้เป็นกรรมฐานกลางๆ ใช้ได้ทุกคน ไม่ยากอะไรนะ ทำไปแล้วคอยรู้เท่าทันจิต จิตสงบก็รู้ จิตฟุ้งซ่านก็รู้ จิตวิ่งหนีไปก็รู้ จิตอยู่กับเนื้อกับตัวก็รู้ ทำกรรมฐานอย่างหนึ่งแล้วรู้ทันจิตไปเรื่อย ในที่สุด จิตก็จะสงบลงมา เชื่องขึ้นๆ ตั้งมั่น ไม่หนีไปไหน จิตได้สมาธิที่มีกำลัง เวลาที่เหลือ เจริญสติในชีวิตประจำวัน การเจริญสติในชีวิตประจำวันก็คือ มีตาก็ดู มีหูก็ฟัง มีใจก็คิด มีจมูกก็รู้กลิ่น มีลิ้นก็รู้รส มีกายก็รู้สัมผัสทางกาย กระทบอารมณ์ไปตามธรรมชาติธรรมดา แต่พอกระทบอารมณ์แล้วนะ ถ้าเกิดสุขให้รู้ เกิดทุกข์ให้รู้ เกิดกุศลให้รู้ เกิดโลภ โกรธ หลงอะไรขึ้นมา ให้รู้นะ กระทบอารมณ์ไป" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Sun, 15 October 2017
"อยู่ที่ตัวเองนะ ไม่ใช่อยู่ที่ใครมาบังคับเรา ควบคุมตัวเองให้ได้ อย่าปล่อยให้กิเลสควบคุมแล้วขี้เกียจ ขี้คร้านไม่ยอมภาวนา การปฏิบัตินะ ไปฟังหลักของการปฏิบัติที่หลวงพ่อสอนให้ เจริญสติอยู่ชีวิตจริงๆ ฝึกให้มาก เพราะชีวิตส่วนใหญ่เราอยู่ตรงนี้ ยืน เดิน นั่ง นอน รู้สึกตัวไปเรื่อยๆ จะกินข้าว จะดื่มน้ำ จะทำอะไรต่ออะไร จะพูดจะคิดอะไร คอยรู้สึกกาย รู้สึกใจไปเรื่อยๆ ถ้ารู้สึกอย่างนี้ได้เรื่อยๆ ก็คือเราใช้เวลาเต็มที่ วันหนึ่งของเรายาวนานกว่าคนทั่วๆ ไป" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ |
Fri, 13 October 2017
"เราได้ยินว่าใครเขาภาวนาดี เราอนุโมทนา ยินดีกับเขานะ ใจเราจะได้บุญ ถ้าใจเราอิจฉา ใจเราเศร้าหมอง มันจะขวางการปฏิบัติของเราเอง ไม่อยากให้ใครเขาเข้าใจธรรมะเลย กรรมตัวนี้แรงนะ" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ |
Wed, 11 October 2017
"ท่านสอนกรรมฐานง่ายๆ สอนกายานุปัสสนา รู้สึกร่างกายหายใจออก หายใจเข้า ยืน เดิน นั่ง นอน เคลื่อนไหว หยุดนิ่งอย่างงี้ ดูง่ายๆ นะ สอนเวทนานุปัสสนา รู้ความรู้สึกสุข ทุกข์ เฉยๆ นี่ง่ายๆ พวกเราก็รู้สึกได้ รู้สึกไหม ใจสุขหรือใจทุกข์หรือใจเฉย ดูง่ายๆ นะ ดูจิตตานุปัสสนา จะดูจากจิตที่เป็นกุศล อกุศล จิตเดี๋ยวก็เป็นกุศล เดี๋ยวก็โลภ เดี๋ยวก็โกรธ เดี๋ยวก็หลง หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงทั้งวันนะ หัดดูอย่างนี้ไปนะ" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ |
Mon, 9 October 2017
"ถ้าเราแยกขันธ์ชำนาญ เราจะรู้ว่า ความรู้สึกสุขทุกข์ เป็นของถูกรู้ ถูกดู จิต คือ คนที่รู้ ที่ดู จิตเป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ ถามว่าจิตมีนิยามว่าอย่างไร ความหมายของจิต จิต คือ ธรรมชาติที่รู้อารมณ์ จิตเป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ อะไรเป็นตัวที่รู้อารมณ์ ก็คือ จิต จิตรู้อารมณ์ผ่านอะไร ผ่านอายตนะ อายตนะเป็นทางเชื่อมต่อกับโลกข้างนอก จิตจะรู้รูปผ่านทางตา จิตจะได้ยินเสียงผ่านทางหู จิตจะรู้เรื่องราวที่คิดผ่านทางใจ จะผ่านอายตนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๐ |
Sat, 7 October 2017
"เฝ้ารู้นะ ความเป็นธรรมดาของกาย ความเป็นธรรมดาของใจ แล้วจะเห็นไตรลักษณ์ของกายของใจ เห็นไตรลักษณ์ของกายของใจ ก็คือวิปัสสนากรรมฐาน วิปัสสนะ วิ แปลว่า แจ้ง ปัสสนะ คือ การเห็น เห็นแจ้ง เห็นความจริงในรูปนาม กายใจนี้ ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จะเห็นได้ ใช้ใจที่ธรรมดาไปรู้ความเป็นธรรมดาของกาย ไปรู้ความเป็นธรรมดาของใจ" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๐ |
Thu, 5 October 2017
"พออายุเยอะๆ ขึ้นนะ แล้วเราไม่มีธรรมเลยเนี่ย ชีวิตเราจะไม่สดชื่น ร่างกายก็ไม่แข็งแรง ไม่กระปรี้กระเปร่าเหมือนเมื่อก่อน จิตใจเราทุกวันนี้ เราก็ต้องพึ่งคนอื่นมากขึ้นๆ ช่วยตัวเองได้น้อยลง ไม่ค่อยมีความสุข งั้นต้องรีบฝึกกรรมฐาน ต่อไปนี้ ทุกลมหายใจเข้าออก คอยรู้สึกตัวมีสติ" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๐ |
Tue, 3 October 2017
"การเลือกคบกัลยาณมิตร สำคัญนะ ถ้าเราไปคบพวกติดเพ่ง หรือติดจิตว่างๆ จิตสบาย เพลินๆ เราก็จะเป็นคนแบบนั้นไป" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๐ |
Sun, 1 October 2017
"วิธีพ้นทุกข์ด้วยการหนีทุกข์ หนีไม่รอด เรามารู้ความจริงของรูปนามกายใจ รู้กายไป เห็นกายนี้เป็นก้อนทุกข์ เป็นตัวทุกข์ พอเห็นอย่างนี้ ใจมันจะเบื่อหน่ายคลายความยึดถือในร่างกาย เบื่อหน่ายคลายความยึดถือแล้ว ร่างกายแก่ จิตใจจะไม่หวั่นไหว ร่างกายเจ็บ จิตใจก็ไม่หวั่นไหว ร่างกายจะตาย จิตใจก็ไม่หวั่นไหว ตายอย่างสง่าผ่าเผย" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๐ |
Fri, 29 September 2017
"ถ้าเราจะทำทาน เราจะรักษาศีล เราจะทำสมาธิ เราจะเจริญปัญญา จะต้องฉลาด อย่างน้อยที่สุด รู้ว่าเราทำไปเพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้นนะ ทำทานนี้เพื่อความบริสุทธิ์ของจิตใจ ไม่ใช่ทำเพื่อจะเฮง ถือศีล ก็เพื่อขัดเกลาจิตใจ เพื่อไปสู่ความบริสุทธิ์ ไม่ใช่ถือศีล ก็หวังว่าจะได้ไปเป็นเทวดา หรือจะได้เกิดเป็นคนอีกรอบหนึ่ง เจือสิ่งเหล่านี้เข้ามา บางคนไปนั่งสมาธิแก้บน ไม่ได้อยากนั่งเลย แต่บนไว้ จำเป็นต้องนั่ง ไม่งั้นเจ้าพ่อจะโกรธ ห่วงเจ้าพ่อมากกว่า อย่างทำทาน หวังรวย หวังเฮง หวังอะไร อย่างนี้ นี่มันเจือกิเลสทั้งนั้นแหละ ไม่ได้ว่าวิสุทธิ ไม่ใช่สิ่งที่จะไปสู่ความบริสุทธิ์เลย" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๐ |
Wed, 27 September 2017
"ถ้าเราถือศีล 5 นะ ทุกวันทำในรูปแบบ สร้างพลังของสมาธินะ แล้วก็เจริญสติ เจริญปัญญาในชีิวิตประจำวัน มรรคผล นิพพาน ไม่ไปไหนหรอก ยังไง สักวันมันก็ถึง" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๐ |
Mon, 25 September 2017
"กรรมฐาน อย่าไปทำเพราะอยากดีนะ ถือว่าเราอยู่ในชีวิตธรรมดาอย่างนี้ เราพุทโธไป หายใจไป ถือว่าเราทำเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า คิดไว้แค่นี้ ทำบูชาพระพุทธเจ้าไปเรื่อย ไม่จำเป็นต้องมีดอกไม้ ธูป เทียนเลย บูชาด้วยการบริกรรมภาวนา พุทโธๆ คิดถึงท่าน แล้วรู้ทันจิตใจตัวเองไปเรื่อย เรียกว่าปฏิบัติบูชานะ แล้วตัวนี้ดีมาก ดีกว่าไปนั่งสมาธิแล้วเครียดๆ ปวดหัว" -- พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๗๒ วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๐ |