Mon, 4 January 2016
"จิตตั้งมั่นมีสมาธิอยู่ก็จะเห็นว่ากุศล อกุศลกับจิตก็แยกออกจากกันได้ เค้าฝึก 2 วันเอง ทำไมมันง่าย เพราะเด็กคนนี้ไม่เคยเรียนกรรมฐานเลย พวกเรียนกรรมฐานคล้ายเชื้อโรคดื้อยา สะสมความรู้ผิดความเข้าใจผิดไว้เต็มไปหมด ในสมองจะเต็มไปด้วยคำว่า ทำยังไงถึงจะถูก ทำไงถึงจะดี" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่โรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๘ |
Sun, 3 January 2016
"ตั้งมั่นอย่างเดียวยังไม่เป็นกลางนะ ยังไม่เห็นทุกสิ่งชัดหรอก ตั้งมั่นแล้วใจก็ยังยินดีบ้าง ยินร้ายบ้าง ใจก็แกว่งไปแกว่งมา ให้เรารู้ทัน เวลามีความสุขเกิดขึ้น ใจมันพอใจรู้ว่าพอใจ เวลามีความทุกข์เกิดขึ้น ใจไม่พอใจรู้ว่าใจไม่พอใจ รู้เข้ามาอีกชั้นหนึ่ง ใจจะเข้าสู่ความเป็นกลาง" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เทศน์ที่ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๘ |
Sun, 3 January 2016
"ใจสงบก็รู้ ใจฟุ้งซ่านก้รู้ ใจเป็นยังไงก็รู้ไม่ว่ามันหรอก ถ้าตอนไหนดูจิตใจไม่ได้ก็เห็นร่างกาย เห็นร่างกายหายใจ เห็นร่างกายยืนเดินนั่งนอน" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรมแผ่นที่ ๖๒ วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ช่วงสอง |
Sun, 3 January 2016
"ถ้าเห็นกายเห็นจิตเป็นสมถะนะ จำไว้นะ ถ้าเห็นไตรลักษณ์ ถึงจะเป็นวิปัสสนา" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรมแผ่นที่ ๖๒ วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ช่วงแรก |
Sun, 3 January 2016
"เราภาวนาเรารู้เลย พระพุทธเจ้ามีจริงๆ ธรรมะมีจริงๆ เรื่องอริยสัจนี่ของจริง แล้วมีเหตุมีผล ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอย ทำเหตุชั่ว ทำตัณหา มีผลเป็นทุกข์ - ทำเหตุดี เจริญมรรค มีผลเป็นความดับทุกข์ มีเหตุมีผลทั้งด้านดีด้านชั่ว พระธรรมมีจริงๆ ลงมือปฏิบัติแล้วพ้นทุกข์ได้จริงๆ แล้วก็เชื่ออีกว่าพระสงฆ์มีจริงๆ เพราะใจของเรานั้นเปลี่ยนเป็นใจของพระสงฆ์" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ |
Wed, 30 December 2015
"ตาหูจมูกลิ้นกายใจกระทบอารมณ์ ความรู้สึกอะไรเกิด - รู้สึก ถ้ารู้สึกจิตได้รู้สึกที่จิต รู้สึกจิตไม่ได้ก็ดูกาย ดูจิตไม่ได้ ดูกายไม่ได้ ทำสมถะ ทำสมถะไม่ได้ อ่านการ์ตูนก็เป็นสมถะนะถ้ารู้จักทำ ดูการ์ตูนมีความสุขขึ้นมาก็ได้สมถะแล้ว ฝึกแบบนี้แหละไม่ช้าหรอก ... ขณะนี้อยู่ที่ไหนภาวนาที่นั่น" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 B (ช่วงสอง) |
Wed, 30 December 2015
"เราต้องคอยระลึกรู้กาย ระลึกรู้ใจ แต่ไม่เข้าไปแทรกแซงกายแทรกแซงใจ ร่างกายหายใจออกรู้สึก ร่างกายหายใจเข้ารู้สึก ไม่ใช่ว่าต้องหายใจแบบไหน หายใจแล้วต้องกระทบจุดนั้นจุดนี้ อันนั้นสมถกรรมฐาน ไม่ใช่วิปัสสนา วิปัสสนานะ หายใจยังไงรู้อย่างนั้นล่ะ" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ช่วงแรก |
Tue, 29 December 2015
"การที่เราจะเจริญปัญญา มีสติ รู้กาย รู้ใจตามความเป็นจริง รู้บ่อยๆ รู้เนืองๆ รู้ด้วยใจที่ตั้งมั่น ใจเป็นกลาง ไม่เข้าไปแทรกแซง เราก็จะเห็นกายอย่างที่กายเป็น เห็นใจอย่างที่ใจเป็น เพราะรู้ตามความเป็นจริง จึงเบื่อหน่าย เพราะเบื่อหน่ายจึงคลายความยึดถือ เพราะคลายความยึดถือจึงหลุดพ้น ก็หลุดพ้นจากกองทุกข์กันตรงนี้เอง" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ที่วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 6 ธันวาคม 2558 |
Tue, 29 December 2015
"บางคนทำบุญนะ อธิษฐาน เจ้าประคุณ ให้ห่างไกลความทุกข์หมื่นโยชน์ แสนโยชน์ ห่างไกลความทุกข์ ไม่รู้ไม่เห็นความทุกข์มันจะได้ธรรมะได้ยังไง ไม่รู้ทุกข์ไม่รู้ธรรมหรอก ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรมหรอก แต่ทุกข์ก็ไม่ใช่เรื่องสะเปะสะปะออกไปข้างนอก สิ่งที่เรียกว่าทุกข์ก็คือ ขันธ์ ๕ คือกาย คือใจของเรานี่เอง หน้าที่ต่อทุกข์ คือรู้ - รู้กายอย่างที่กายเป็น รู้ใจอย่างที่ใจเป็น" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2558 B (วันทอดกฐิน) |
Tue, 29 December 2015
"การปฏิบัติของเรานะ (๑) ถือศีล ๕ (๒) ทุกวันทำในรูปแบบอย่างน้อย ๑๕ นาที อย่างน้อยนะ ไหว้พระสวดมนต์ ถ้าไม่สงบทำให้สงบ สงบแล้วฝึกให้ตั้งมั่น ตั้งมั่นแล้วฝึกแยกขันธ์ แยกขันธ์แล้วดูไตรลักษณ์ ค่อยๆ ฝึกเป็นลำดับๆ ไป เวลาที่เหลือ (๓) การเจริญสติในชีวิตประจำวัน ตัวนี้ล่ะตัวแตกหักละ " พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2558 A |
Tue, 29 December 2015
"เหลือเวลาจริงๆ ส่วนตัวจริงๆ ไม่มากหรอก ยังจะเอาเวลาที่เหลือนี่ไปเล่นอีก รวมความว่าไม่เหลือเวลาภาวนาเลย เราต้องรู้ว่าอะไรมีสาระกับชีวิตเรา อะไรไม่มีสาระ อะไรมีประโยชน์ อะไรไม่มีประโยชน์ต้องรู้ สิ่งที่จะมีประโยขน์ในการยกระดับจิตวิญญาณเราก็คือ สมถะและวิปัสสนา การทำทาน การถือศีล การภาวนา มีประโยชน์" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 |
Sun, 27 December 2015
"พวกเราบางคนรู้ตัวไม่เป็นนะ แต่ตอนเกิดอุบัติเหตุ หรือตอนทำอะไรที่น่ากลัว เช่น ตอนไปทำฟัน น่ากลัว พอใจมันกลัวขึ้นมานะ ตัวรู้มันเด่นขึ้นมาเลย กายกับใจแยกออกจากกัน แยกขันธ์เลย นี่ของดีของวิเศษ แต่ส่วนใหญ่ก็ลืม ก็จะไปทำสมาธิอย่างฤาษีกัน" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 6 พ.ย. 58 |
Sun, 27 December 2015
"ถ้าเข้าใจแล้วเราจะลดเวลาที่จะปฏิบัติไปได้เยอะ บางคนไม่รู้หลักของการปฏิบัติ ทุ่มเทปฏิบัติตลอดชีวิต ไม่ได้ผล บางทีไปติดอยู่ในภาวะอันใดอันหนึ่ง คิดว่าทำอย่างนี้แล้วจะหลุดพ้น เสียเวลาเป็นชาติๆ บางทีเสียเวลาเป็นกัปป์เลยนะ" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 31 ตุลาคม 2558 |
Sat, 26 December 2015
"ธรรมะสมบูรณ์ด้วยเหตุด้วยผล เหตุผลทั้งสองด้านนะ ทางโลกียะ มีตัณหาเป็นเหตุ มีทุกข์เป็นผล ทางโลกุตระ มีมรรคเป็นเหตุ มีอริยผลเป็นผล มีเหตุมีผล เป็นโลกุตระเหตุ โลกุตระผล อันหนึ่งเป็นโลกียะเหตุ โลกียะผล ในอริยสัจคลุมทั้งโลกียะ ทั้งโลกุตระ อริยสัจเลยเป็นธรรมะที่เป็นแม่บท ครอบคลุมธรรมะทั้งหมดไว้" พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติะรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 30 ตุลาคม ๒๕๕๘ ช่วงสอง |
Sat, 26 December 2015
"หน้าที่ของเราชาวพุทธนะ ถ้าจะช่วยกันรักษาสืบทอดศาสนาไว้ ก็คือ ช่วยกันปฏิบัติ เรียน แล้วก็ปฏิบัติให้ดี ลดละกิเลสให้ได้ ได้รับผลประโยชน์จากการเป็นชาวพุทธ เราจะรักพระพุทธเจ้า ... พวกเรารีบภาวนานะ อย่าขี้เกียจ ความตายจะมาถึงเมื่อไรก็ไม่รู้ ศาสนาจะหมดไปวันไหนไม่รู้" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันสวนสันติธรรม แผ่นที่๖๒ วันที่ 30 ตุลาคม 2558 A |
Fri, 25 December 2015
"พอเราจิตเคลื่อนแล้วมีสติรู้ทัน สติคุ้มครองรักษาจิต จิตสว่างไสวขึ้นมา จิตไม่หลง จิตมันก็ไม่โลภ มันก็ไม่โกรธ ถ้าจิตไม่โลภ ไม่โกรธ มันไม่หลงผิด ในขณะนั้นจะผิดศีลไม่ได้ ศีลอัตโนมัติมันเกิดขึ้น อินทรียสังวรศีล ไม่ใช่ศีล ๕ ศีล ๘ แต่เป็นศีลเฉยๆ เป็นศีลอย่างดี เราฝึกนะ จิตเคลื่อนแล้วรู้ๆ จิตเราจะเป็นธรรมชาติ จิตเราจะเป็นธรรมดา ศีลเป็นความเป็นปกติ เป็นความเป็นธรรมดาของจิตนั่นแหละ" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 17 มกราคม 2558 |
Wed, 23 December 2015
"ยากนะ ต้องอดทนเอา แต่อย่างน้อยตั้งใจว่าอยากจบๆ ก็ดีแล้วล่ะ คอยเตือนตัวเองบ้างเวลาจะหลงโลก ... ไม่ท้อถอยนะ พูดให้เราดูตัวเองให้ออก ให้ตรงที่เป็น ถ้าดูได้ตรงตามความเป็นจริง แล้วก็ไปต่อได้ เพ้อๆ ฝันๆ ไปไม่ได้หรอก" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 16 ตุลาคม 2558 |
Wed, 23 December 2015
"ให้รู้ทันจิตที่เคลื่อนไหว อย่าไปบังคับจิตให้นิ่ง ถ้าเมื่อไรรู้ทันว่าจิตเคลื่อน จิตรู้จะเกิดขึ้น จิตที่ตั้งมั่นจะถอนตัวออกมาเลย ... ง่ายๆ แค่นี้เอง ถ้ารู้ทันจิตที่เคลื่อน จิตที่ตั้งมั่นจะเกิด พอจิตตั้งมั่นเกิดแล้วมันจะเห็นว่าร่างกายกับจิตคนละอันกัน" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 11 ตุลาคม ๒๕๕๘ |
Thu, 17 December 2015
"ลูกน้องบางคนนี่คิดถึงก็โมโหแล้วนะ สั่งงานอะไรไม่เคยทำอย่างที่เราสั่งเลย จะทำอย่างอื่น ก่อนที่จะเรียกมาด่า เรารู้ทันใจของเราก่อน โทสะขึ้นแล้ว พอเราดูไป โทสะจะดับนะ ไม่ต้องไปยุ่ง ไม่ต้องไปห้าม แค่รู้เท่านั้น เห็นความเกิดขึ้น-ความตั้งอยู่ของมัน แล้วมันก็จะหายไปเอง ... หรือเวลาเราประชุม ใจเราอยากได้ เรารู้ทันใจที่อยาก ความอยากดับไป เราจะเหลือแต่เหตุผลนะว่าจะทำยังไงที่จะดีที่สุด" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เทศน์ที่ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ |
Thu, 17 December 2015
"อะไรที่ถูกรู้มันไม่เป็นเราหรอก ร่างกายถูกรู้มันไม่เป็นเรา ความสุข ความทุกข์ มันถูกจิตไปรู้เข้า ไม่เป็นเรา ความดี ความชั่ว ก็ถูกจิตไปรู้เข้า ก็ไม่เป็นเราอีก จิตมันก็ถูกจิตไปรู้เข้า จิตก็ไม่เป็นเราอีก ... จิตเกิดดับเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พอตามรู้ตามดูหนักๆ เข้า ไม่มีเราอีกแล้ว ถ้าเราเห็นความจริงนะว่าตัวเราไม่มี ความทุกข์จะอยู่ที่กายอยู่ที่ใจ มันเข้าไม่ถึงความรู้สึก มันจะไม่ใช่เราทุกข์อีกต่อไป" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เทศน์ที่โรงพยาบาลลำปาง จ.ลำปาง วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ |
Thu, 17 December 2015
"ตรงที่เห็นว่าทุกอย่างชั่วคราว เรียกว่า อนิจจัง ตรงที่เห็นว่าเราบังคับมันไม่ได้ ไม่อยู่ในอำนาจ เรียกว่าอนัตตา ถ้าดูกายนี่จะเห็นทุกข์นะ เห็นทุกขได้ง่าย ทุกขัง คือทนอยู่ไม่ได้ ถูกบีบคั้น" พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เทศน์ที่วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ |
Wed, 16 December 2015
"ที่มาฝึกจิตผึกใจจะเอาดี จะเอาสุข จะเอาสงบ คือฝึกสร้างภพนั่นเอง ให้รู้ลงไปเลย จิตมีความโลภ มีตัณหาขึ้นมา รู้ทันลงไป แล้วก็รู้สึกกาย รู้สึกใจไปเรื่อย ต่อไปสติปัญญาแก่รอบขึ้นมา ตัณหาไม่เกิด ตัณหามันระงับไป ใจก็ไม่กระเพื่อมหวั่นไหว ไม่ปรุงแต่ง ไม่สร้างภพ" พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เทศน์ที่วัดพระธาตุโกฏิแก้ว จ.เชียงราย วันที่ ๒๑ พฤศจิการยน ๒๕๕๘ |
Mon, 14 December 2015
"ถ้าเรารู้วิธีของพระพุทธเจ้า ในเวลาเดือนหนึ่ง สองเดือนสามเดือนจะเริ่มเห็นผล เวลาไม่นานจะเริ่มเห็นผลว่าชีวิตจิตใจของเราจะเปลี่ยนไป เราเคยทุกข์มากเราเหลือก็ทุกข์น้อย เคยทุกข์นานเราก็เหลือทุกข์สั้น เปลี่ยนด้วยตัวเอง รู้สึกด้วยตัวเอง" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ |
Mon, 14 December 2015
"ไม่มีใครทำให้จิตบรรลุมรรคผลนิพพานได้หรอก จิตเขาเป็นของเขาเอง เราเพียงแต่สร้างเงื่อนไขที่เกื้อกูลให้จิตบรรลุมรรคผลนิพพาน พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องศีลสิกขา จิตสิกขา ปัญญาสิกขาเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเราได้เจริญ-เรียนอยู่ในสามบทเรียนนี้ ถึงจุดหนึ่งจิตจะฉลาด จิตก็หลุดพ้นของจิตเอง" พระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช เทศน์ที่ราชกรีฑาสโมสร วันที่ 15 พ.ย. 2558 |
Wed, 2 December 2015
"รากเหง้าเลยนะ ที่ทำให้จิตยึดจิต หรือ จิตยึดขันธ์ คือความไม่เห็นทุกข์ ถ้าจิตเห็นทุกข์แจ่มแจ้ง จิตจะไม่ยึดขันธ์ หน้าที่ของเรานักปฏิบัติ ท่านสอนว่าให้รู้ทุกข์ สิ่งที่เรียกว่าทุกข์คือรูปนามขันธ์ ๕ คือกายคือใจนี้เอง รู้บ่อยๆ รู้อย่างที่เขาเป็นบ่อยๆ ถ้ารู้ได้แล้วจิตจะไม่ยึดถือ" พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๖๒ วันที่ 10 ตุลาคม 2558 |