เราอยู่กับร่างกาย อยู่กับจิตใจของเรามาแต่ไหนแต่ไร แต่คนในโลกไม่ได้เรียนรู้ร่างกายจิตใจของตัวเอง ลืมไปหมดแล้ว มัวสนใจแต่สิ่งอื่น ของข้างนอก สนใจรูปมากกว่าสนใจลูกตาตัวเอง สนใจเสียงมากกว่าสนใจหู สนใจกลิ่นมากกว่าสนใจจมูก สนใจรสชาติมากกว่าสนใจลิ้น สนใจสิ่งที่มาสัมผัสร่างกายมากกว่าจะสนใจร่างกาย สนใจเรื่องราวที่คิด นึก ปรุง แต่ง ความรู้สึกนึกคิดทั้งหลายมากกว่าจะสนใจจิตใจตัวเอง มีคนจำนวนมากบอกปฏิบัติมาหลายสิบปีเลย มันก็ได้แค่นั้น พอมาฟังหลวงพ่อพูด เรื่องเจริญสติเรื่องอะไร จิตใจก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว ธรรมะของพระพุทธเจ้า ถ้าทำถูกจะไม่เนิ่นช้า เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะที่ไม่เนิ่นช้า ถ้าเนิ่นช้า แสดงว่าต้องมีอะไรพลาดแล้ว อันแรกเลย ปฏิบัติไม่ถูก อันที่สอง ปฏิบัติไม่ต่อเนื่อง ทำแล้วก็หยุดๆ พวกตุ่มรั่ว ที่หลวงพ่อเรียก พวกตุ่มรั่ว พอเขารู้จักการเจริญสติ จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน จะกินอาหาร จะขับถ่าย จะทำอะไร ก็รู้สึกกาย รู้สึกใจไปเรื่อยๆ สติก็ไวขึ้นๆ พอสติมันเกิด สมาธิที่แท้จริงมันก็เกิด เพราะสัมมาสติที่ทำให้มาก เจริญให้มาก จะทำให้สัมมาสมาธิบริบูรณ์ ฉะนั้นเราจะต้องพัฒนาสัมมาสติให้ได้ ด้วยการทำสติปัฏฐานนั่นล่ะ มิฉะนั้นเราจะเดินจงกรม นั่งสมาธิ คนอื่นเขาก็เดินจงกรม เขานั่งสมาธิ แต่เขาเดินเพื่อความสุข เพื่อความสงบ เพื่อความดี เราจะเดินจงกรม จะนั่งสมาธิ เพื่อพัฒนาสติและสัมมาสมาธิ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 9 กรกฎาคม 2566

Direct download: 660709.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07