ความเพียรชอบกับความเพียรอย่างที่เราคิดกันมันคนละเรื่องกัน ความเพียรชอบเพียรลดละกิเลสที่มีอยู่ เพียรปิดกั้นอกุศลใหม่ไม่ให้เกิด เพียรทำกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เพียรทำกุศลที่เกิดแล้วให้เจริญให้มากขึ้น จะทำได้ก็อาศัยสติ ไม่ใช่เรื่องอื่นเลย อย่างเรามีกิเลส เรามีสติปุ๊บ กิเลสดับทันทีเลย กิเลสที่มีอยู่ดับ ในขณะที่มีสติอยู่กิเลสใหม่ก็ไม่เกิด เห็นไหมเรามีสัมมาวายามะแล้ว หรือการที่เรามีสติขึ้นมา กุศลได้เกิดเรียบร้อยแล้ว แล้วถ้าสติของเราถี่ยิบขึ้นมา กุศลเราก็จะพัฒนาขึ้นไปเป็นศีล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา ถึงจุดหนึ่งวิมุตติก็เกิดขึ้น ความเพียรจริงๆ เป็นแบบนี้ มีสติรู้เท่าทันจิตใจตัวเองไป มันปรุงกิเลสก็รู้ทันไป มันปรุงอะไรก็คอยรู้ไป ในที่สุดจิตก็มีสัมมาวายามะ มีความเพียรชอบ ส่วนที่นั่งสมาธิเดินจงกรมหามรุ่งหามค่ำอะไรแต่ไม่ได้มีสติ อันนั้นไม่ได้มีความเพียร อันนั้นคืออัตตกิลมถานุโยค การทำตัวเองให้ลำบากโดยเปล่าประโยชน์ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช บ้านจิตสบาย 27 ตุลาคม 2567

Direct download: 671027.mp3
Category:Dhamma Talks -- posted at: 6:00am +07