Tue, 15 October 2024
|
Tue, 15 October 2024
|
Tue, 15 October 2024
การดูจิตดูใจไม่ใช่เรื่องยาก แค่ย้อนมาสังเกตจิตใจตนเอง มีตา มีหู จมูก ลิ้น กาย ใจเหมือนกับคนอื่นนั่นล่ะ ก็ไม่ต้องแกล้งทำหูหนวกตาบอด ไม่ต้องทำจิตให้นิ่งๆ ไม่คิดไม่นึก ก็ให้จิตมันทำงานไปตามธรรมชาติธรรมดา มีตาก็ดู มีหูก็ฟัง มีใจก็คิด ให้มันทำงานไป พอตาเห็นรูป เราก็ไม่แทรกแซงจิตว่าจิตต้องเฉย ห้ามยินดียินร้ายอะไร ไม่ต้อง ตาเห็นรูปแล้วจิตเกิดยินดียินร้ายตรงนี้ เกิดสุขเกิดทุกข์ เกิดดีเกิดชั่ว รู้ทันตรงนี้ ไม่ยากที่จะรู้ แต่ละเลยที่จะรู้ เพราะมัวแต่สนใจของข้างนอก หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 8 กันยายน 2567 |
Mon, 14 October 2024
|
Mon, 14 October 2024
|
Mon, 14 October 2024
เราก็ต้องรู้ว่า เราจะทำสมาธิเพื่ออะไร ทำสมถะเพื่ออะไร เพื่อให้มีแรง เพื่อให้จิตตั้งมั่น ตอนไหนจิตไม่มีแรง น้อมจิตไปอยู่ในอารมณ์อันเดียวอย่างต่อเนื่อง ให้ความสำคัญที่ตัวอารมณ์ จิตก็จะมีกำลัง เพราะจิตไม่ได้วิ่งวอกแวก ไปที่อารมณ์โน้นทีอารมณ์นี้ที เพราะจิตอยู่ในอารมณ์อันเดียว จิตก็ได้พักผ่อน จิตก็เลยมีแรง วิธีทำให้จิตตั้งมั่นก็คือ อาศัยสติรู้เท่าทันพฤติกรรมของจิต อย่างเราหายใจเข้าพุท หายใจออกโธ แล้วจิตมันหนีไปคิด รู้ทันว่าจิตหนีไปคิด ไม่ได้น้อมจิตไปหาลมหายใจ ไม่ได้น้อมจิตไปที่พุทโธ แต่รู้ทันจิต ฉะนั้นสมาธิ 2 อันนี้ไม่เหมือนกัน อย่างแรกที่ทำเพื่อความสงบนั้น ตัวอารมณ์เป็นพระเอก อย่างที่จะฝึกให้จิตตั้งมั่นนั้น ตัวจิตเป็นพระเอก 2 อันนี้จะแตกต่างกัน ผลที่ได้ก็ต่างกัน เพราะฉะนั้นเราคอยรู้เท่าจิตของตัวเอง ทำกรรมฐานไป อะไรก็ได้ที่เราถนัด แล้วคอยรู้ทันจิตตนเอง หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 7 กันยายน 2567 |
Fri, 11 October 2024
พอจิตตั้งมั่นและเป็นกลาง ก็จะเกิดปัญญาเห็นความจริงของร่างกายของจิตใจ เมื่อเห็นความจริงของร่างกายของจิตใจอย่างถ่องแท้แล้ว จะรู้เลยขันธ์ 5 มันไม่มีอะไรหรอก ขันธ์ 5 ก็มีแต่ทุกข์นั่นล่ะ รูปนาม กายใจนี่มีแต่ทุกข์นั่นล่ะ พอใจมันยอมรับความจริงได้ ความอยากก็ไม่เกิด เมื่อความอยากไม่เกิด ความยึดถือ ความดิ้นรนปรุงแต่งของจิตก็ไม่เกิด ความทุกข์ทางใจก็ไม่เกิด จิตใจมันเป็นอิสระขึ้นมา พ้นทุกข์เพราะพ้นจากความปรุงแต่ง หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 1 กันยายน 2567 |
Thu, 10 October 2024
เราปรารถนาความสุขในชีวิต เราต้องรู้ว่าความสุขอย่างโลกๆ มันสุขหลอกๆ มันสุขเพื่อให้เราทุกข์ต่อไป สุขหลอกๆ ให้เรามีแรงที่จะวิ่งพล่านๆ ตามกิเลสตัณหาต่อไป แล้วความสุขที่ประณีตกว่านั้น คือความสุขของสมถกรรมฐาน ความสุขของการทำวิปัสสนากรรมฐาน ความสุขเมื่อเกิดอริยมรรค เกิดอริยผล ความสุขเมื่อจิตทรงพระนิพพาน มีสติรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลางเรื่อยๆ ไป แล้วสติปัญญาจะค่อยพัฒนาแก่กล้าขึ้น ใจจะปล่อยวางจางคลายจากโลกมากขึ้นๆ พอใจมันคลายตรงนี้ มันจะรู้เลยว่า ในโลกนี้ไม่มีสาระ ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราถูกหลอกให้วิ่งพล่านๆ แสวงหาสิ่งนั้นสิ่งนี้ เพื่อวันหนึ่งจะสูญเสียมันทั้งหมดไป ใจฉลาดขึ้นมา ใจมีปัญญาขึ้นมา ใจก็ค่อยสงบ ใจมีความสุข หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 31 สิงหาคม 2567 |
Thu, 3 October 2024
|
Thu, 3 October 2024
|
Thu, 3 October 2024
|
Thu, 3 October 2024
|
Thu, 3 October 2024
|
Thu, 3 October 2024
|
Tue, 1 October 2024
การที่เรายังยึดติดในกายในใจ เรายังไม่พ้นการเวียนว่ายตายเกิด เราต้องหมดความยึดติดในกายในใจ เราถึงจะพ้นไป โลกคือหมู่สัตว์ โลกคือรูปนาม หมู่สัตว์มันก็คือรูปกับนามนั่นล่ะ ฉะนั้นจิตเราจะพ้นจากโลกได้ พ้นจากความเป็นสัตว์ได้ ก็ต้องหมดความยึดถือในรูปนาม ถ้าเรายังยึดกายอยู่ เราก็ยังติดกาม หรือติดรูปฌาน ถ้าเรายึดจิตอยู่ก็ยังไปติดอยู่ในอรูปฌานได้ ทําอย่างไรเราจะไม่ยึดในรูปในนาม เราต้องเห็นความจริงของรูปนาม ต้องเห็นความจริงของร่างกายของจิตใจ ว่ามันไม่ใช่ของดีของวิเศษ ร่างกายเต็มไปด้วยความไม่เที่ยง เต็มไปด้วยความทุกข์ เต็มไปด้วยอนัตตา บังคับมันไม่ได้ มันเป็นแค่วัตถุธาตุ ร่างกายเป็นแค่ธาตุที่หมุนเวียน มีธาตุไหลเข้ามีธาตุไหลออก พอเราเห็นอย่างถ่องแท้มีสติระลึกรู้ร่างกาย มีจิตตั้งมั่นเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เราก็จะเห็นความจริงของร่างกาย มีแต่ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ถ้าเห็นถ่องแท้แล้วจิตก็หมดความยึดถือในร่างกาย แล้วเราก็ภาวนาของเราต่อไป วางกายได้แล้ว งานสุดท้ายก็คือจิต ทวนเข้ามาที่จิตสังเกตเข้าไปที่จิต จิตเองก็ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาเหมือนกัน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 25 สิงหาคม 2567 |
Mon, 30 September 2024
สิ่งที่เป็นภัยมากที่สุดคือตัวมิจฉาทิฏฐิ ยิ่งพวกเซลฟ์จัด แล้วก็จัดแบบไม่รู้ถูก ความถูกต้อง เผยแพร่ออกไป พวกนี้อันตราย ระมัดระวังของเรา ความชั่วทั้งหลายอย่าไปทำ ความดีมีโอกาสทำ ให้รีบทำเสีย อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไป น่าเสียดาย ควรจะทำดีได้ 10,000 ครั้ง ก็ปล่อยเวลาทิ้งไป เลยได้ 9,000 ครั้ง น่าเสียดาย ขาดทุน พวกเรามีโอกาสเรียนธรรมะ ก็ตั้งอกตั้งใจเรียน สิ่งที่เราจะได้มาคือตัวสัมมาทิฏฐิ สิ่งที่เราจะหมดไปสิ้นไปคือตัวมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีอะไรมีโทษร้ายแรงเท่ามิจฉาทิฏฐิ ร้ายกาจ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี แล้วก็ตัวเองไม่รู้ผิดชอบชั่วดี แล้วชวนคนอื่นให้ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีไปด้วย มันเป็นกรรมซ้ำซ้อน มากมายเหลือเกิน หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 24 สิงหาคม 2567 |
Tue, 24 September 2024
|
Mon, 23 September 2024
|
Mon, 23 September 2024
|
Sat, 21 September 2024
|
Sat, 21 September 2024
|
Fri, 20 September 2024
|
Fri, 20 September 2024
|
Fri, 20 September 2024
เครื่องมือสำคัญที่เราจะอ่านความปรุงแต่งของจิตออก มีเครื่องมือหลักๆ 2 ตัว สติกับสมาธิ สติเป็นตัวรู้ทัน สังเกตจิตใจเรามีความปรุงแต่งใดๆ เกิดขึ้นให้รู้ทัน ปรุงสุข ปรุงทุกข์ ให้รู้ทัน ปรุงเฉยๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ ให้รู้ทัน ปรุงดี ปรุงชั่ว ให้รู้ทัน หัดรู้ทันความปรุงแต่งไป แล้วต่อไปเราจะเห็นความปรุงแต่งกับจิตมันทำงานด้วยกัน เกิดมาด้วยกัน แต่มันเป็นคนละอันกัน ความโกรธก็อันหนึ่ง จิตก็อันหนึ่ง ความโลภกับจิตก็คนละอัน ความหลงกับจิตก็คนละอันกัน เพราะธรรมชาติของจิตนั้นผ่องใส แต่ว่าสิ่งปรุงแต่งนี้ทำให้จิตเรามอมแมมไป หัดรู้หัดดูไป หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม 28 สิงหาคม 2567 |
Thu, 19 September 2024
[คลิปสั้น] วัดความก้าวหน้าของการปฏิบัติ หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช 11 ส.ค. 67 (670811)[คลิปสั้น] วัดความ
|